กระเทียม พริกไทย เกลือ ช่วยรักษาภูมิแพ้ต่างๆ

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีสาระดีๆมาฝากกันค่ะ เชื่อว่าตอนนี้หลายๆท่านนั้นเป็นโรคภูมิแพ้ แบบรู้ตัวและแบบโดยไม่รู้ตัวไม่ว่าจะเป็นอาการภูมิแพ้ แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น และแพ้อาหารทะเล ซึ่งอาการภูมิแพ้เหล่านั่นเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ และเป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ขั้นรุนแรง จะมีวิธีไหนที่เราสามารถนำมาใช่แก้อาการภูมิแพ้ นอกจากการใช้ยาแก้แพ้ซึ่งเป็นยาเคมีได้บ้าง ในด้านของสมุนไพรไทย มีดังนี้

กระเทียม (Garlic) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Allium sativum เป็นพืชสมุนไพรไทยชนิดหนึ่ง มักถูกจัดอยู่ในประเภทเครื่องเทศ มีลักษณะกลมแป้น ประกอบด้วยกลีบที่ห่อหุ้มด้วยเปลือกสีขาว คนไทยนิยมนำมาใช้ทำอาหาร เนื่องจากช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มรสชาติให้เมนูอาหารมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ประโยชน์ของกระเทียมมีมากมาย โดยเฉพาะสรรพคุณทางยาที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ถือเป็นสมุนไพรคู่ครัวสารพัดประโยชน์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ประโยชน์ของกระเทียม อยู่ในสารอัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารที่ให้กลิ่นฉุนอันเป็นเอกลักษณ์ที่เราคุ้นเคยกันดี ซึ่งสารตัวนี้จะออกฤทธิ์ให้สรรพคุณทางยาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อเราหั่น ฝาน หรือทุบกระเทียม เพื่อนำไปทำอาหาร ก็ไม่ได้ทำให้สารอัลลิซิน สลายไป คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำให้กินกระเทียมวันละ 7-12 กลีบ หรือไม่เกินวันละ 1 หัวขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นการกินกระเทียมสด หรือกินผ่านการปรุงอาหาร ก็ได้รับประโยชน์และส่งผลดีต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน

โทษของกระเทียม หากทานมากเกินไป กระเทียมมีประโยชน์และสรรพคุณทางยาก็จริง แต่ทุกอย่างก็ต้องตั้งอยู่บนความสมดุล หากทานกระเทียมมากเกินไปอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน เพราะจะส่งผลให้เกิดภาวะเลือดแข็งตัวช้า เนื่องจากสารในกระเทียมจะยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งหากเกิดบาดแผลจะทำให้เลือดไหลไม่หยุด สำหรับสตรีมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร ควรงดทานกระเทียมในรูปแบบยาเสริมอาหาร เนื่องจากอาจทำให้รสชาติน้ำนมเปลี่ยนไป ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งต้องกินยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด และยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ ไม่ควรทานกระเทียมในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เป็นโรคโลหิตจาง ในผู้ที่แพ้กระเทียมบางราย อาจมีอาการปวดท้อง อาเจียน และวิงเวียนศีรษะควบคู่กัน

พริกไทย

ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper nigrum L. ชื่อวงศ์ PIPERACEAE ชื่ออื่นๆ ภาคเหนือเรียก พริกน้อย ภาคกลางเรียก พริกไทย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้เถา ประเภทเลื้อย อาศัยเกาะยึดติดอยู่กับค้าง โดยใช้รากเล็กๆ ที่เจริญออกมาตามข้อของลำต้นที่เรียกว่า รากตีนตุ๊กแกหรือมือตุ๊กแก เปลือกลำต้นเมื่ออ่อนจะมีสีเขียว และเมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ลำต้นมีข้อและปล้องมองเห็นได้ชัดเจน ต้นเพศผู้และต้นเพศเมียจะอยู่ต่างต้นกัน

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับกันตามข้อของลำต้นและกิ่งแขนง ลักษณะใบรูปไข่ โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ลักษณะคล้ายใบพลู เนื้อใบแข็ง ผิวใบเรียบเป็นมัน ท้องใบจะเป็นสีเขียวออกเทา และมีเส้นใบนูน ส่วนหลังใบจะเป็นสีเขียวเข้ม
ดอก จะออกดอกเป็นช่อ เกิดตรงข้ามกับใบในส่วนของกิ่งแขนง ดอกย่อยเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ไม่มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยง เกสรสีขาวแกมเขียว ช่อดอกขณะอ่อนจะมีสีเหลืองอมเขียว เมื่อแก่จะมีสีเขียวและปลายช่อดอกจะห้อยลงดิน
ผล ลักษณะรูปทรงกลม เรียงบิดตัวกันอย่างหนาแน่นอยู่กับแกนของช่อ ผลอ่อนจะมีสีเขียวอ่อนและจะเข้มขึ้นตามอายุของผล ผิวของผลจะมีลักษณะเป็นมันเงาและเปลี่ยนเป็นสีเขียวปนเหลือง ผลแก่สุกเต็มที่จะมีสีส้มหรือสีแดง เมื่อผลแห้งจะเป็นสีดำ
เมล็ด จะมีสีขาวนวล ลักษณะแข็ง รูปร่างค่อนข้างกลม ภายในเมล็ดมีต้นอ่อนขนาดเล็กอยู่ เมล็ดมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัวและมีรสเผ็ด

ประโยชน์ทางยา

ใบ รสเผ็ดร้อน แก้ลม จุกเสียด แน่น แก้ปวดมวนท้อง
เถา รสร้อน แก้อุระเสมหะหรือเสมหะในทรวงอก แก้อติสาร (อาการท้องร่วง อุจจาระเหม็นเน่า ถ่ายเป็นโลหิตจนลำไส้แตกทะลุ มีไข้แทรก)
ดอก รสเผ็ดร้อน แก้ตาแดง เนื่องจากความดันโลหิตสูง
ผลหรือเมล็ด รสเผ็ดร้อน แก้ลมอัมพฤกษ์ แก้ลมลั่นในท้อง บำรุงธาตุ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้เสมหะเฟื่อง แก้มุตกิด
ราก รสร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ปวดท้อง แก้ลมวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร

เกลือ เป็นเครื่องปรุงอาหารที่ช่วยทำให้อาหารนั้นมีรสชาติกลมกล่อม และ อร่อยมากขึ้นแล้ว หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเกลือที่เราทานเข้าไปนั้น สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพได้เช่นกัน เกลือมีประโยชน์อะไรบ้าง

เกลือ ช่วยป้องกันการขาดสารไอโอดีน ไอโอดีนนั้นเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย มีความสำคัญต่อกระบวนการเมตาบอลิซึมและการทำงานของเซลล์ที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อร่างกายขาดไอโอดีนอาจทำให้เกิดความผิดปกติ เช่น คอพอก ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ท้องผูกได้ ช่วยรักษาสุขภาพในช่องปาก สามารถช่วยกำจัดแบคทีเรียที่มากเกินไปในช่องปากได้ ลดโอกาสที่จะเป็นโรคเหงือกอักเสบหรืออาการปวดฟัน ช่วยขจัดรังแคบนศีรษะ เพียงนำเกลือมาโรยบนศีรษะก่อนที่จะสระผม จากนั้นจึงเริ่มสระผมและนวดวนหนังศีรษะเบา ๆ เกลือจะช่วยทำความสะอาดและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก แล้วจึงสระผมอีกครั้งและล้างออกด้วยน้ำสะอาด ช่วยลดอาการคันตามร่างกาย ด้วยการนำเอาเกลือผสมกับน้ำมันมะกอกจากนั้นก็ทาลงไปบริเวณที่มีอาการคัน ก็จะช่วยบรรเทาอาการคันลงได้ ช่วยขจัดกลิ่นเท้า โดยนำเกลือผสมน้ำอุ่น แช่เท้าลงไปอย่างน้อย 20-30 นาที เกลือจะเข้าไปกำจัดเชื้อโรคตามซอกเท้าและฝ่าเท้า นอกจากจะช่วยลดกลิ่นเท้าแล้ว ยังช่วยคลายความเหนื่อยล้าได้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าสมุนไพรแต่ละอย่างมีประโยชน์และหาได้ง่าย ฉะนั้นเรามาลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ

วัตถุดิบ

กระเทียม 7 กลีบ
พริกไทย 7 เม็ด
เกลือเม็ด 7 เม็ด
น้ำสะอาด 5 แก้วกาแฟ

ขั้นตอนและวิธีการทำ

ทุบ กระเทียม พริกไทย เกลือ พอแหลก
จากนั้นนำหม้อตั้งไฟเปิดไฟกลางๆ เทน้ำลงไป แล้วตามด้วย กระเทียม พริกไทย และเกลือ ที่ทุบแล้วลงไปในหม้อ
ต้มจนเดือด เสร็จแล้วจึงปิดไฟ กรองเอาแต่น้ำ

วิธีการรับประทาน