บทความเกษตร/เทคโนโลยี » การผลิตปุ๋ยหมัก โดยใช้สารเร่ง ซุปเปอร์ พด.1

การผลิตปุ๋ยหมัก โดยใช้สารเร่ง ซุปเปอร์ พด.1

18 ธันวาคม 2021
2055   0

การผลิตปุ๋ยหมัก โดยใช้สารเร่ง ซุปเปอร์ พด.1

การผลิตปุ๋ยหมัก

การผลิตปุ๋ยหมัก





ความหมายของปุ๋ยหมัก

ปุ๋ยหมักเป็นอินทรีย์ชนิดหนึ่ง เกิดจากการนำเศษซากพืช มารวมตัวและอาจจะกวนการย่อยสลายโดยกิจกรรมหนอนจุลินทรีย์  จนเปลี่ยนสภาพไปจากเดิมเป็นวัสดุที่มีลักษณะนุ่มนิ่ม เปื่วอยยุ่ย  ไม่แข็งกระด้าง  ซึ่งซึ่งจะออกสีน้ำตาลปนดำ

การผลิตปุ๋ยหมัก

สารเร่งซุปเปอร์  พด.1 สำหรับผลิตปุ๋ยหมัก

เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการย่อยสลายวัสดุเหลือใช้จักรการเกษตรที่มีองค์ประกอบของเซลลูโลสและไขมันที่ย่อยสลายอยาก  เช่น  ทะลายปาล์ม   ขี้เลื่อย  เปลือกถั่ว   เปลือกเมล็ดกาแฟ   เพื่อผลิตปุ๋ยหมักในเวลาอันรวดเร็ว   เป็นจุลินทรีย์ที่ทนต่ออุณหภูมิสูง   ซึ่งประกอบไปด้วยจะจุลินทรีย์ที่ย่อยสลายจากเซลลูโลส   และจุลินทรีย์ที่ย่อยสลายไขมัน เป็นต้น

ขั้นตอนวิธีการผสมของวัสดุมีแต่ใช้ทำปุ๋ยหมัก

ในการทำปุ๋ยหมักปริมาณ 1 ตัน  นั้นประกอบไปด้วย

  • เศษพืชแห้ง                   1,000    กิโลกรัม
  • มูลสัตว์                           200      กิโลกรัม
  • ปุ๋ยไนโตรเจน                     2       กิโลกรัม
  • (หรือน้ำมันชีวภาพที่ผลิตจากปลา  9  กิโลกรัม)
  • สารเร่งซุปเปอร์ พด.1         1   ซอง  (100 กรัม)

 

การผลิตปุ๋ยหมัก

วิธีการกองปุ๋ยหมัก

ในการกองปุ๋ยหมัก 1 ตัน   นั้นมีความกว้างประมาณ  2 เมตร  ยาว 3 เมตร   สูง 1.5 เมตร  เส้นการกรองนั้นมี 2 วิธี  วัสดุที่มีขนาดเล็ก ให้คลุกเคล้าวัสดุให้เข้ากัน และกล่องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า   วัสดุที่มีชิ้นส่วนยาวให้ก่อนเป็นชั้นๆ   3-4  ชั้น  แบ่งส่วนผสมที่เป็นกองออก เป็น 3-4  ส่วนตามจำนวนชั้นที่กอง ดังนี้ 

  • ผสมสารซุปเปอร์ พด.1 ในน้ำ 20 ลิตร   คนนาน 5-10 นาที  เพื่อกระตุ้นให้จุลินทรีย์ออกจากสภาพที่เป็นสปอร์และพร้อมที่จะเกิดกิจกรรมการย่อยสลาย
  • การกรองชั้นแรกให้นำวัสดุที่แบ่งไว้ส่วนที่ 1   มาก่อนเป็นชั้น มีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร สูง  30 ถึง 40 เซนติเมตร  ย้ำให้พอนั่นและรดน้ำให้ชุ่ม
  • นำมูลสัตว์โดยที่ผิวหน้าเศษพืช
  • โรยปุ๋ยไนโตรเจนทับบนชั้นของมูลสัตว์ หรือรดด้วยน้ำหมักชีวภาพจากปลา
  • สารละลายสารเร่งให้ทั่วโดยแบ่งใส่เป็นชั้นๆ  หลังจากนั้นนำเศษพืชมากองทับทำชั้นต่อไป   ปฏิบัติเหมือนกันกล่องชั้นแรก   ทำเช่นนี้อีก 2-3 ชั้น   ชั้นบนสุดของกองปุ๋ยปิดทับด้วยเศษพืชที่เหลืออยู่เพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้




การผลิตปุ๋ยหมัก โดยใช้สารเร่ง ซุปเปอร์ พด.1

  • รดน้ำรักษาความชื้นในกองปุ๋ยให้กองปุ๋ยช่วงอยู่สม่ำเสมอ มีความชื้นประมาณ  50 ถึง 60  เปอร์เซ็นต์
  • ควรกลับกองปุ๋ยหมักทุกๆ  7-10 วันต่อครั้ง   เพื่อเป็นการระบายอากาศ  เพิ่มออกซิเจนและให้ช่วยวัสดุคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • เก็บรักษากองปุ๋ยหมักที่เสร็จแล้วไว้ในโรงเรือนหลบแตดและฝน

“การผลิตปุ๋ยหมัก โดยใช้สารเร่ง ซุปเปอร์ พด.1”

หลักการพิจารณาปุ๋ยหมักที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

  1. สีของวัสดุเศษพืชจะมีสีน้ำตาลเข้มจนถึงสีดำ
  2. ลักษณะของวัสดุเศษพืชมีลักษณะอ่อนนุ่ม  ยุ่ย และขาดออกจากกันได้ง่าย
  3. กลิ่นของวัสดุปุ๋ยหมักที่สมบูรณ์จะไม่มีกลิ่นเหม็น
  4. อุณหภูมิภายในและภายนอกของกองปุ๋ยหมักจะใกล้เคียงกัน
  5. สังเกตเห็นว่าการเจริญของพืชบนกองปุ๋ยหมัก
  6. ค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนเท่ากันต่ำกว่า 20 ต่อ 1

อัตราและวิธีการใช้ปุ๋ยหมัก

  • ข้าว     อัตราการใช้ 2 ตันต่อไร่   หว่างให้ทั่วพื้นที่แล้วไถกลบก่อนปลูกพืช หรือ ข้าว
  • พืชไร่  อัตราการใช้  2 ตันต่อไร่  โดยเป็นแถวตามแนวปลูกพืชแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันกับดิน
  • พืชผัก อัตราการใช้กี่ตันต่อไร่   หว่านให้ทั่วแปลงปลูกไถกลบขณะเตรียมดินปลูก
  • ไม้ผม ไม้ยืนต้น  แบ่งเป็น
           การเตรียมหลุมปลุก   20 กิโลกรัมต่อหลุมเขาปุ๋ยหมักเข้ากับดินใส่รองก้นหลุม

           ต้นพืชที่เจริญแล้ว  อัตราการใช้ 20 ถึง 50 กิโลกรัมต่อต้นโดนขุดร่องลึก 10 เซนติเมตรตามแนวพุ่มตัดต้นไม้แล้วใส่ปุ๋ยหมักในร่องและอบด้วยดินหรือหวานให้พวกภายใต้ทรงพุ่ม
  • ไม้ตัดดอก อัตราการใช้ 2 ตันต่อไร่
  • ไม้ยืนต้น  อัตราการใช้ 5-10 กิโลกรัมต่อหลุม

ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก

  1. ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุให้แก่ดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์
  2. ช่วยเปลี่ยนสภาพของดินจากดินเหนียวหรือดินทรายให้เป็นดินร่วนทำให้สะดวกในการไถพรวน
  3. ช่วยสงวนรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ดีขึ้น
  4. ทำให้การถ่ายเทอากาศในดินได้ดี
  5. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยเคมีและสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้
  6. ช่วยกระตุ้นให้ธาตุอาหารพืชบางอย่างในดินที่ละลายน้ำยากให้ละลายน้ำง่ายเป็นอาหารแก่พืชได้ดีขึ้น
  7. ไม่เป็นอันตรายต่อดินแม้จะใช้ในปริมาณมาก ๆ ติดต่อกันนาน ๆ
  8. ช่วยปรับสภาพแวดล้อม เช่น กำจัดขยะมูลฝอยและวัชพืชน้ำทั้งหลายให้หมดไป



   ที่มา : จากเอกสารเผยแพร่เรื่องสารเร่งประเภทจุลินทรีย์ พด.1 พด.2 พด.3
             กลุ่มวิจัยและพัฒนาอินทรีย์วัตถุเพื่อการเกษตร
             สำนักวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดิน
             กรมพัฒนาที่ดิน
             กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง :