วิธีการเพาะเห็ดโคนน้อย อีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้เสริม
สวัสดีครับ วันนี้เราก็ได้นำเรื่องราวที่เป็นประโยชน์มาฝากกัน เป็นเรื่องราวของ “การเพาะเห็ดโคนน้อย” ที่คนไทยนิยมรับประทานกันครับ ซึ่งเราลองมารู้จักการเพาะของเห็ดชนิดนี้กันเลยครับ
เห็ดโคนน้อย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า โคไพรนัส ไฟมิทาเรียส (Coprinus fimetarrius) จัดอยู่ใน ตระกูลเห็ด (Basidiomycetes ในประเทศไทยมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป มีชื่อเรียกตามวัสดุเพาะ เช่น เห็ดถั่ว เห็ดถั่วเหลืองหรือ เห็ดถั่วเน่า เห็ดโคนน้อย เห็ดโคนบ้าน เห็ดโคนขาว(ภาคเหนือ) เห็ดคราม เห็ดปลวกน้อย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)เห็ดโคนเพาะ
เห็ดโคนน้อย หรือ เห็ดหมึก(ภาคกลาง) เป็นเห็ดที่ขึ้นง่าย เห็ดชนิดนี้นมีคุณค่าทางอาหารสูงแล้วยังพบว่ามีสรรพคุณทางสมุนไพร ช่วยในการย่อยอาหารและลดเสมหะ สามารถที่จะใช้วัสดุเพาะอื่นๆเพาะได้อีกมากไม่ว่าจะเป็นต้นและใบถั่วต่างๆต้นข้าวโพด ทะลายปาล์มน้ำมัน ผักตบชวา ต้นและใบกล้วย ซึ่งสามารถที่จะนำมาเป็นวัสดุเพาะได้ทั้งสิ้น ล้วนแล้วแต่เป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งของการเพาะ เห็ดโคนน้อยคือการสลายตัวง่ายของดอกเห็ด เนื่องจากเป็นเห็ดที่มีวงจรชีวิตสั้นมากไม่เกิน 36 ชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่ที่พบ คือประมาณ 24 ชั่วโมงเท่านั้น โดยตอนเช้าจะมีขนาดเล็กและจะโตขึ้นในช่วงบ่าย ซึ่งจะต้องรีบเก็บ หากปล่อยทิ้งไว้ดอกเห็ดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสูงชะลูดขึ้น หมวกดอกจะบางและเปลี่ยนเป็นสีดำและสลายตัว เป็นที่มาของชื่อเห็ดหมึกซึ่งไม่สามารถนำมาบริโภคจึงมีระยะเวลาในการให้ผลผลิตค่อนข้างสั้น นอกจากจะทำการลวกให้สุกเสียก่อนก็พอที่จะ
สามารถเก็บได้นานขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากเห็ดโคนน้อยมีการเจริญเติบโตเร็ว ส่วนของครีบจะสลายกลายเป็นของเหลวสีดำคล้ายหมึกเป็นผลมาจากการย่อยตัวเอง (autolysis) อย่างไรก็ตามในต่างประเทศ ได้มีการนำของเหลวจากการสลายตัวนี้มาใช้ประโยชน์ได้เช่นทำน้ำหมึกเพื่อทำต้นฉบับเอกสารพิเศษเพื่อป้องกันการปลอมแปลง
ขั้นตอนการเพาะ เห็ดโคนน้อย
สูตรอาหารสำหรับ 100 ตะกร้า
- ฟางแห้ง 100 ฟ่อน หรือ ใช้ฟางโม่ 150 กก.
- น้ำ 400 ลิตร
- รำละเอียด 2 กก.
- ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 2 กก.
- ปุ๋ยแคลเซียมไนเตรท สูตร 15-0-0 4 กก.
- กากน้ำตาล 2 กก.
วิธีการปฏิบัติ
วันที่ 1 (วันแรกที่เริ่มปฏิบัติ ไม่ใช่วันในปฏิทิน)
- ต้มน้ำ ประมาณ 150 ลิตร ในถัง(ถังน้ำมัน 200 ลิตรที่ผ่า 3ใน4) เติมรำละเอียด 1กก. กากน้ำตาล 1 กก. ปุ๋ยแคลเซียมไนเตรทสูตร 15-0-0 2 กก. ปุ๋ยยูเรีย 1 กก. ต้มน้ำจนเดือดเป็นไอขึ้นมา
- นำฟางแห้งลงต้มหรือลวกจนกระทั่งฟางนิ่ม แล้วตักขึ้นนำไปกองไว้
- นำพลาสติกมาคลุมกองฟางที่ลวกแล้ว (คลุมให้มิดชิด) บ่มทิ้งไว้ 1 คืน
วันที่ 2
- นำเชื้อเห็ดมายีให้ร่วน (ขยี้เบา ๆ ) นำมาคลุกกับอาหารเสริม (แป้งข้าวเหนียวผสมรำละเอียดอัตราส่วน 1:1ส่วน) ใช้อัตรา 1 กำมือต่อหัวเชื้อเห็ด 1 ถุง
- วางตะกร้าพลาสติกสำหรับเพาะเห็ดที่เตรียมไว้วางบนพื้นที่สะอาด( แต่ต้องปูพลาสติกหรือกระสอบฟางรองพื้นก่อน)
- นำตะกร้าที่ตัดก้นออกสวมลงในตะกร้าเพาะอีกชั้นเพื่อทำเป็นแบบพิมพ์
- นำฟางที่ลวกแล้วที่เตรียมในวันที่ 1ใส่ลงในตะกร้าเพาะเป็นชั้น ๆ ดังนี้
– ชั้นที่ 1 ใส่ฟางลงในตะกร้าหนาประมาณ 3-5 เซนติเมตรใช้มือกดให้แน่น โรยเชื้อเห็ดที่เตรียมไว้ให้ทั่วผิวหน้าฟาง
– ชั้นที่ 2 ใส่ฟางหนาประมาณ 5-10 เซนติเมตรใช้มือกดให้แน่น โรยเชื้อเห็ด เฉพาะบริเวณริมขอบชิดข้างตะกร้าเพาะโดยรอบ
– ชั้นที่ 3 และ ชั้นที่ 4 ปฏิบัติเหมือนเช่นชั้นที่ 2
– ชั้นที่ 5 โรยเชื้อเห็ดให้ทั่วผิวหน้าฟางแล้วทับด้วยฟางหน้าประมาณ 3-5 เซนติเมตร
– ใช้เท้าเหยียบกดก้อนฟางเบาๆเพื่อดึงตะกร้าแบบพิมพ์ออก แล้วจัดก้อนฟางให้เรียบร้อย
– นำตะกร้าวัสดุเพาะที่เสร็จแล้วมาวางรวมกันไว้ ทำจนครบ 100 ตะกร้าแล้วค่อยนำเข้าไปแขวนบ่มโรงเรือน
– ก่อนนำตะกร้าเพาะไปเข้าโรงเรือนให้รดน้ำก่อนด้วยน้ำปุ๋ยที่เย็นแล้ว หรือ น้ำเปล่าใส่บัวรดน้ำโดยรดผ่านๆไปมาพอเปียก)
– นำตะกร้าวัสดุเพาะเข้าแขวนหรือวางเรียงในโรงเรือน โดยก่อนย้ายเข้าให้พ่นน้ำในโรงเรือนให้ มีความชื้นเสียก่อน
– นับจากวันแรกที่ย้ายวัสดุเพาะเข้าโรงเรือนจนครบ 5 วัน ให้รักษาอุณหภูมิใน โรงเรือนให้ได้ประมาณ 35-38 องศาเซลเซียส และรักษาความชื้นให้ได้ 80 % โดยปิดพลาสติกโรงเรือนให้มิดชิด
– เห็ดโคนน้อยจะเริ่มออกดอกเห็ดให้เก็บผลผลิตได้ประมาณวันที่ 5-6 หลังจากที่นำตะกร้าวัสดุเพาะไปบ่มไว้ในโรงเรือน และจะทยอยเก็บดอกเห็ดได้ติดต่อกันทุกวัน เป็นเวลาประมาณ 10-15 วัน
ปริมาณผลผลิตต่อตะกร้าวัสดุเพาะประมาณ 1 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศว่าเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของดอกเห็ดแต่ละครั้งในการเพาะ
การดูแลและทำความสะอาดดอกเห็ดหลังเก็บเกี่ยว
ดอกเห็ดที่ได้รับการเก็บเกี่ยวแล้ว ยังจะเจริญเติบโตต่อเนื่องอย่างรวดเร็วหากเก็บไว้ในที่มีอุณหภูมิสูงจะทำให้ดอกเห็ดไม่มีคุณภาพน้ำหนักเบา บานง่าย ดังนั้นการเก็บเกี่ยวเห็ดโคนน้อย ไม่ควรเก็บใส่ในภาชนะที่ทึบและอับไม่ควรใส่เข้าไปในภาชนะให้มีปริมาณมากจนเกินไปมักจะนิยมใช้ตะกร้าโปร่งที่สามารถใส่ดอกเห็ดได้ประมาณ 4-5 กก. เมื่อทำการเก็บเกี่ยวเรียบร้อยแล้วควรรีบนำไปตัดแต่ง ทำความสะอาดแล้วนำไปจำหน่ายโดยเร็ว หากปล่อยทิ้งไว้ ดอกเห็ดจะบานและกลายเป็นสีดำอย่างรวดเร็วเนื่องจากเห็ดมีการสลายตัว แต่ถ้าต้องการยืดอายุในการเก็บรักษา ควรเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 8-10 องศาเซลเซียส สามารถเก็บในรูปเห็ดสดได้นานข้ามวันได้
สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ฐานเรียนรู้เห็ดแม่โจ้ อาจารย์สันต์ชัย มุกดา นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ฐานเรียนรู้เห็ดแม่โจ้ หลักสูตรสาขาวิชาอารักขาพืช คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทรศัพท์ 0 5387 5840 หรือ 08 9554 2325 (อาจารย์ สันต์ชัย มุกดา)หรือ 08 5614 8291(คุณไวกูณฑ์ อินทรคุปต์)
โดย อาจารย์ พิชัย สมบูรณ์วงศ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ และสมศักดิ์ ศิริ นักวิชาการเกษตร งานถ่ายทอดเทคโนโลยี ฝ่ายนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 053-873938-9
แหล่งที่มา : สำนักงานวิจัยและส่งเสริมการเกษตร
Cr ภาพ : คุณ เปรี้ยวปิ๊ด สมาชิก Pantip
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ