การปลูกผักสวนครัว ปลูกครั้งเดียวได้กินทั้งปี
การปลูกพืชผักสวนครัวยังคงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เพราะปลูกง่าย ทานได้อย่างปลอดภัย มีพื้นที่น้อยก็สามารถปลูกได้ ที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินซื้อตามตลาดให้เปลืองเงินอีกต่อไป ซึ่งในการปลูกผักต่าง ๆ ไว้ทานเองนั้น บางทีคุณอาจจะพลาดขั้นตอนบางอย่างไป และอาจทำให้ต้นไม้ของคุณไม่โต โดยในวันนี้เราก็จะมาบอกเคล็ดลับในการเพาะเมล็ดผักสวนครัวยอดนิยมแต่ละชนิด ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นลองตามกันมาดูกันได้เลยครับ
ปลูกพริก
สำหรับวิธีการเพาะนั้น สามารถนำเมล็ดมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 5-10 องศาจนเมล็ดจมน้ำ แล้วเอากล่องพลาสติกที่มีฝาปิดมารองก้นด้วยกระดาษชำระจุ่มน้ำ แล้วก็นำเมล็ดมาใส่ลงไปในกล่องพลาสติก จากนั้นก็ปิดฝากล่องให้แน่นและทิ้งไว้ 1 คืนเพียงเท่านี้ก็สามารถนำมาเพาะปลูกได้ ซึ่งพริกนั้นจะใช้เวลาในการงอกอยู่ที่ 10 วันและใช้เวลาในการปลูกอยู่ประมาณ 80 วันถึงจะเก็บเกี่ยวได้
ปลูกต้นหอม
วิธีการเพาะ ทำการเตรียมดินสำหรับปลูกให้เรียบร้อย เอาเมล็ดถั่วลิสงมาทุบแล้วผสมกับดินให้เป็นเนื้อเดียวกัน เอาเมล็ดต้นหอมโรยลงไปบนหน้าดิน ทำการรดน้ำช่วงเช้าและเย็น เมื่อใบขึ้นแล้วก็ให้ทำการรดน้ำลงเหลือครั้งละ 1 วันพอ ซึ่งต้นหอมนั้นจะใช้เวลาในการงอกอยู่ที่ 5 วันและใช้เวลาปลูกอยู่ที่ 45 วันจึงจะสามารถเก็บเกี่ยวได้
การปลูกสะระแหน่
การปลูกแบบ การปลูกในอิฐบล๊อก หรือ กระถางประดิษฐ์ และกระถางพลาสติก ซึ่งมีพื้นที่จำกัด และต้องใช้ดินที่ผสมกับแกลบดำหรือแกลบดิบ หรือผสมกับวัสดุอื่น เช่น ขุยมะพร้าว แต่ที่ขาดไม่ได้ คือ ปุ๋ยคอก โดยอัตราส่วนดิน ปุ๋ยคอก และวัสดุอื่นที่ผสม 1:2:1 สำหรับจำนวนต้นที่ปลูกในกระถางนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ ซึ่งควรมีระยะห่างของต้นประมาณ 5-10 ซม.
การให้น้ำ สะระแหน่ เป็นผักที่ชอบดินชื้นตลอด แต่ห้ามมีน้ำขัง ดังนั้น หลังการปลูกต้องรดน้ำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง จนถึงระยะที่กิ่งพันธุ์ตั้งตัวได้ ค่อยลดการให้น้ำที่วันเว้นวัน
การใส่ปุ๋ย หลังการตัดทุกครั้งควรใส่ปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงต้น
การเก็บเกี่ยว หลังการปลูกแล้วประมาณ 45-50 วัน สะระแหน่จะเริ่มเก็บยอดได้ การเก็บแต่ละครั้งควรใช้กรรไกรตัด เพราะหากใช้มืออาจทำให้ลำต้นถอนได้ และจะเก็บได้อีกครั้งประมาณ 15-20 วัน
การปลูกคะน้ายอด
คะน้ายอด Chinese Kale ผักคะน้ามีสรรพคุณป้องกันโรคต้อกระจก ผักคะน้าป้องกันมะเร็ง ผักคะน้าให้แคลเซียมที่สูง ผักคะน้ามีธาตุเหล็กและโฟเลต ประโยชน์ของผักคะน้าช่วยดูแลผิวสวย ผักคะน้าช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ผักคะน้ามีเส้นใยอาหาร ผักคะน้าช่วยป้องกันและชะลอการเสื่อมของสมอง
วิธีการปลูก
- ให้เตรียมดินละเอียดพร้อมปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2:1
- นำเมล็ดผักคะน้าหยอดลงในตะกร้า
- กลบดินผิวหน้าเมล็ดผักคะน้า แล้วรดน้ำ และป้องกันมดมาคาบเมล็ดไปจากถาดพลาสติกเพาะกล้า โดยใช้ปูนขาวโรยเป็นเส้นรอบรูปล้อมถาดเพาะไว้
- หลังเพาะนาน 7-10 วัน ผักคะน้าเริ่มงอก หมั่นรดน้ำต้นผักคะน้าทุกวันๆ ละ 1-2 ครั้งในช่วงเช้า และเย็น จนกระทั่งต้นผักคะน้ามีอายุ 20-25 วัน จึงย้ายกล้าผักคะน้าลงปลูกในกระถาง หรือในแปลงปลูก
การดูแลรักษา
ถ้าทำการย้ายกล้าจากถาดพลาสติกเพาะกล้าลงปลูกในแปลง หรือ ในกระถางปลูก ให้รดน้ำทุกวันๆ ละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าและเย็น หลังย้ายปลูก 7-10 วัน ให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ในอัตรา 1 ช้อนแกงต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร ทุกครั้งที่หว่านปุ๋ยเคมี ต้องรีบรดน้ำตามทันที
การให้น้ำ
คะน้าต้องการน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ เนื่องจากมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรปลูกในแหล่งที่มีน้ำอย่างเพียงพอ การให้น้ำให้ใช้ฝักบัวฝอยรดให้ทั่วและให้ชุ่ม ในเวลาเช้าและเย็น
เมื่อคะน้ามีอายุอยู่ที่ประมาณ 45-55 วันหลังปลูก จะสามารถเก็บเกี่ยว แต่คะน้าที่มีอายุ 50-55 วัน เป็นระยะที่เก็บเกี่ยวได้น้ำหนักมากกว่า
วิธีการปลูกโหระพา
โหระพา พืชสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่มีกลิ่นหอมและมากไปด้วยสรรพคุณ ไม่ว่าจะเป็น แก้หวัด แก้วิงเวียน ช่วยให้เจริญอาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย วิธีการปลูกโหระพาแบบง่ายๆ ไว้กินเองที่บ้าน ว่าแต่ขั้นตอนและวิธีในการปลูกจะมีอะไรบ้างนั้น มาลองเพาะกันเลยโหระพาเป็นพืชล้มลุกอายุสั้น ลำต้นเป็นทรงพุ่มสูงประมาณ 60 – 70 เซนติเมตร ใบเขียว ก้านใบและลำตัวมีสีม่วง ใบมีกลิ่นหอม ใบโหระพาเป็นผักที่ใช้ใบบริโภค ใช้ปรุงแต่งอาหารให้มีรสชาต และกลิ่นหอมน่ารับประทาน
วิธีการปลูก
เตรียมดินเทใส่ในกระถางสำหรับการเพาะปลูกให้เรียบร้อย แล้วหว่านเมล็ดลงกระถาง จากนั้นนำแกลบ หรือฟางคลุมให้ทั่ว ขั้นตอนสุดท้าย รดน้ำ ทุกเช้า-เย็น จนมีอายุ 20-25 วัน ถือเป็นอันเสร็จสิ้น
การดูแล
จัดวางกระถางให้ได้รับแสงแดดธรรมชาติ แต่ควรระมัดระวังอย่างให้โดนแดดจัด รดน้ำให้ต้นโหระพาอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ แต่ระวังอย่าให้แฉะจนเกินไป
วิธีการปลูกกะเพรา
กระเพรา ( Holy basil )ใช้ทำเป็นยาอายุวัฒนะ (the elixir of life) ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นและป้องกันอาการหวัดได้ (ใบ) กะเพราเป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพรหลายชนิด เช่น ยารักษาตานขโมยสำหรับเด็ก ยาแก้ทางเด็ก ฯลฯ รากแห้งนำมาชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม ช่วยแก้โรคธาตุพิการ (ราก) ช่วยบำรุงธาตุไฟ (ใบ) ช่วยแก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน(ใบ)
วิธีการปลูก
ปลูกโดยการหว่านเมล็ด โดยเริ่มจากรดน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง แล้วหว่านเมล็ดพันธุ์ให้กระจายสม่ำเสมอทั่วแปลง ใช้แกลบขาวหรือแกลบดำโรยคลุมให้ทั่วแปลง หลังจากนั้นใช้ฟางแห้งหรือหญ้าแห้งคลุมทับบางๆ เสร็จแล้วให้รดน้ำตาม และรดน้ำทุกๆ วัน หลังจากงอกประมาณ 15-20 วัน ควรทำการถอนแยกให้ได้ระยะระหว่าง 20×20 เซนติเมตร
การดูแลรักษา
- โดยโรยห่างโคนต้น 1 – 2 นิ้ว หรือจะใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์น้อยลงได้
- การให้น้ำ ให้น้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอทุกวัน
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชทุกครั้งที่มีการให้ปุ๋ย และเมื่อมีวัชพืชรบกวน
- การเก็บเกี่ยว หลังปลูกประมาณ 30 – 35 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยใช้มือหรือกรรไกร ตัดกิ่งที่มียอดอ่อนไปบริโภค ถ้าต้นกะเพราออกดอกควรหมั่นตัดแต่งออกทิ้ง เพื่อให้กะเพรามีทรงพุ่มที่แข็งแรงและมีอายุยืนยาว
และนี่ก็คือพืชผักสวนครัวที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งเป็นพืชผักที่ทุกคนนั้นรับประทานกันอยู่บ่อยๆ แล้วก็ทราบกันเป็นอย่างดี ซึ่งวิธีการเพาะนั้นก็ทำได้ง่ายแสนง่าย เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานเองแบบพอเพียง เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และยังลดรายจ่ายให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่งอีกด้วย
ข้อมูลและภาพจาก www.railungtop.com ,Pantip
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ