รวม 6 สูตรวิธีการทำปุ๋ยหมัก โดยการเปลี่ยนขยะให้มีประโยชน์
สวัดดีครับในบทความนี้เราจะมา “รวม 6 สูตรวิธีการทำปุ๋ยหมัก โดยการเปลี่ยนขยะให้มีประโยชน์”เพื่อกำจัดและลดปริมาณขยะด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์ แถมยังช่วยปลูกต้นไม้และบำรุงดิน โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีเลยอีกด้วย ทำให้ดีต่อสุขภาพด้วยครับ
อย่างที่รู้ๆกันดีว่าตอนนี้ประเทศไทยนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นและปัญหาการจัดการขยะที่ยังไม่สามารถจะนำมาใช้ในการจัดการขยะที่เกิดขึ้นหลายล้านตันได้ ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจึงได้มีการรณรงค์ให้ทุกคนช่วยลด คัดแยก และแนะนำวิธีการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์
ทั้งนี้ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ในบรรดาขยะมูลฝอยทั้งหมดนั้น ขยะอินทรีย์หรือขยะย่อยสลายถือเป็นประเภทขยะที่มีอยู่มากที่สุด และมีจำนวนเกินครึ่งของจำนวนขยะทั้งหมด ฉะนั้นถ้าหากเราสามารถลดปริมาณขยะประเภทนี้ลงไปได้ ก็จะช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยรวมตามลงไปด้วยเหมือนกัน และหนึ่งในวิธีกำจัดขยะประเภทนี้ก็คือ การนำไปทำเป็นปุ๋ยหมักสำหรับบำรุงดินและปลูกต้นไม้ ส่วนเศษขยะชนิดใดนำมาทำปุ๋ยได้บ้าง วิธีการเป็นอย่างไร แล้วมีประโยชน์ต่างจากปุ๋ยเคมีมากน้อยแค่ไหน ตามมาดูกันได้เลย
สูตรวิธีการทำปุ๋ยหมัก โดยการเปลี่ยนขยะให้มีประโยชน์
ขยะอินทรีย์ หรือ ขยะย่อยสลาย สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่นิยมมากที่สุดก็คือ การนำกลับมาทำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ เช่น มูลสัตว์ เศษอาหาร เศษผักและผลไม้ รวมทั้งเศษขยะต่าง ๆ ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้วัสดุอินทรีย์ย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ โดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
วิธีที่ 1 วิธีทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร
วัสดุและอุปกรณ์
- เศษอาหารแห้ง เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง ก้างปลา เปลือกไข่ เปลือกผลไม้ 1 ส่วน
- มูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ขี้ม้า 1 ส่วน
- ใบไม้ 1 ส่วน
- ถังขนาด 20 ลิตร
- ตาข่ายกันแมลง
วิธีทำ
- นำถังขนาด 20 ลิตร มาเจาะรูไว้รอบถังแล้วใช้ตาข่ายกันแมลงพันให้รอบ เพื่อช่วยระบายอากาศและป้องกันแมลงรบกวน
- ผสมเศษอาหารแห้งที่มีขนาดเล็กและไม่มีน้ำ เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง ก้างปลา เปลือกไข่ และเปลือกผลไม้ เข้ากับมูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ขี้ม้า และเศษใบไม้ ในอัตรา 1:1:1 ส่วน
- คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปิดฝาให้สนิท ถ้าหากวันต่อไปมีเศษอาหารเพิ่ม ก็นำมาเติมเข้าไปได้ แต่อย่าลืมผสมในอัตราส่วนเท่าเดิมด้วย
- พลิกกลับส่วนผสมวันละ 1-2 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน
Tips : ในช่วงแรกไม่จำเป็นต้องเติมน้ำ เพราะเศษอาหารมีความชื้นอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าส่วนผสมเริ่มแห้งลง ก็สามารถพรมน้ำเข้าไปได้เล็กน้อย โดยจะใช้เวลาในการหมักประมาณ 1 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยหมักสีดำขนาดเล็ก ที่แห้งสนิทและไม่มีกลิ่นเหม็นไว้ใช้บำรุงต้นไม้แล้ว
วิธีที่ 2 วิธีทำปุ๋ยหมักจากต้นกล้วย
วัสดุและอุปกรณ์
- หน่อกล้วย 3 ส่วน
- กากน้ำตาล 1 ส่วน
- น้ำมะพร้าวอ่อน
- น้ำสะอาด
- บัวรดน้ำ
วิธีทำน้ำหมักจุลินทรีย์
- ทำน้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพก่อน โดยนำหน่อกล้วย 3 ส่วนมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วผสมให้เข้ากันกับกากน้ำตาล 1 ส่วน
- เทน้ำมะพร้าวอ่อนลงไปให้พอท่วม ปิดฝาให้แน่นสนิทเพื่อไล่อากาศ 1 วัน แล้วรอประมาณ 10-15 วัน ค่อยนำมากรองใส่ขวดพร้อมเก็บไว้ในที่ร่มเพื่อรอใช้งาน
วิธีทำปุ๋ยหมัก
- นำหน่อกล้วยสับละเอียด 3 ส่วน กากน้ำตาล 1 ส่วน และน้ำมะพร้าวอ่อนมาผสมกัน
- นำน้ำหมักจุลินทรีย์ (จากขั้นตอนข้างต้น) กากน้ำตาล และน้ำใส่ลงไปในบัวรดน้ำ
- นำไปรดให้ชุ่มกองส่วนผสมที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันจนกว่าจะกำแล้วก้อนไม่แตก
- นำส่วนผสมมาใส่ในกระสอบปุ๋ยโดยไม่ต้องมัดปาก แล้วนำไปวางไว้ในที่ร่มประมาณ 5-7 วัน ก็จะได้ปุ๋ยหมักที่หอม มีจุลินทรีย์และอินทรีย์ต่าง ๆ พร้อมแก่การนำไปใช้ประโยชน์ แต่ทางที่ดีอย่าลืมผสมปุ๋ยหมักกล้วย 1 ส่วน เข้ากับปุ๋ยคอก 10 ส่วน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีด้วยล่ะ
วิธีที่ 3 วิธีทำปุ๋ยหมักพืชสด
วัสดุและอุปกรณ์
- พืชสด เช่น พืชตระกูลทั่ว พืชตระกูลหญ้า และพืชน้ำ 2 กระสอบ
- มูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้หมู ขี้เป็ด ขี้ไก่ 2 กระสอบ
- แกลบดำหรือแกลบดิบ 2 กระสอบ
- หัวเชื้อจุลินทรีย์ 1 ขัน
- น้ำสะอาด 40 ลิตร
วิธีทำ
- นำพืชสด ซึ่งส่วนใหญ่นิยมเป็นพืชตระกูลทั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วนา ถั่วพร้า ปอเทือง โสนคางคก โสนอินเดีย โสนอัฟริกัน หรือพืชตระกูลหญ้าและพืชน้ำ จำนวน 2 กระสอบ มูลสัตว์จำนวน 2 กระสอบ และแกลบดำ 2 กระสอบ มาผสมให้เข้ากัน
- นำหัวเชื้อจุลินทรีย์ 1 ขัน ผสมเข้ากับน้ำสะอาดประมาณ 40 ลิตร แล้วรดให้ทั่วกองส่วนผสม
- คลุกให้เข้ากัน หมักไว้ในที่ร่ม รอจนกระทั่งกลายเป็นปุ๋ยที่เย็นแล้วค่อยนำมาใช้งาน
วิธีที่ 4 วิธีทำปุ๋ยหมักจากฟางข้าว
วัสดุและอุปกรณ์
- ฟางข้าวหรือตอซังข้าว 500-1,000 กิโลกรัม
- น้ำหมักชีวภาพที่มีจุลินทรีย์มีชีวิต 5-10 ลิตรต่อไร่
- รถแทรกเตอร์
วิธีทำ
- เกลี่ยฟางข้าวให้กระจายทั่วแปลงนา จากนั้นปล่อยน้ำสะอาดเข้ามาในนาให้ระดับน้ำสูง 3-5 เซนติเมตร
- ใช้รถแทรกเตอร์กดให้ฟางข้าวจมน้ำ เสร็จแล้วนำน้ำหมักชีวภาพสูตรที่มีจุลินทรีย์รดให้ทั่วแปลงนา
Tips : ถ้าใช้ฟางข้าวประมาณ 500-800 กิโลกรัม ให้ใช้น้ำหมัก 5 ลิตรต่อไร่ แต่ถ้าใช้ฟางข้าวประมาณ 800-1,000 กิโลกรัม ให้ใช้น้ำหมัก 10 ลิตรต่อไร่ หมักทิ้งไว้นานราว 10 วัน จนกระทั่งฟางข้าวและตอซังข้าวอ่อนนุ่มและย่อยสลาย หลังจากนั้นก็พรวนดินและเตรียมดินสำหรับปลูกข้าวได้ตามปกติเลย
วิธีที่ 5 วิธีทำปุ๋ยหมักขี้วัว
วัสดุและอุปกรณ์
- มูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้หมู หรือขี้ไก่ 1,000 กิโลกรัม
- หินฟอสเฟต 25 กิโลกรัม
- ปุ๋ยยูเรีย 2 กิโลกรัม
วิธีทำ
- นำมูลสัตว์มาหมักปรับความชื้น 50%
- นำมูลสัตว์ที่ได้ไปผสมหินฟอสเฟต (K. B. K. 0-3-0) และปุ๋ยยูเรีย (สูตร 46-0-0) เข้าด้วยกัน
- นำส่วนผสมข้างต้นใส่ลงในถังหมักพร้อมคลุมผ้าปิด รอประมาณ 1 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยที่พร้อมแก่การใช้งาน
- หมั่นพลิกกลับกองปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ครั้ง ได้แก่ ครั้งแรกเมื่อหมักได้ 3 วัน ครั้งที่สองเมื่อหมักได้ 10 วัน ครั้งที่สามเมื่อหมักได้ 17 วัน และครั้งที่ 4 เมื่อหมักได้ 24 วันนั่นเอง
วิธีที่ 6 วิธีทำปุ๋ยหมักจากเศษหญ้า
วัสดุและอุปกรณ์
- เศษหญ้าหรือเศษพืชอื่น ๆ 1,000 กิโลกรัม
- มูลสัตว์ 200 กิโลกรัม
- ปุ๋ยยูเรีย 2 กิโลกรัม
- สารเร่ง พด.1 1 ซอง
- น้ำสะอาด 5 ลิตร
วิธีทำ
- นำเศษหญ้าหรือเศษพืชอื่น ๆ เช่น ฟางข้าว ต้นข้าวโพด หรือต้นอ้อยมาสับให้ละเอียด
- นำส่วนผสมมากองเป็น 3 ชั้น ในพื้นที่ร่มไร้แสงแดด โดยให้รองพื้นด้วยมูลสัตว์ ตามด้วยเศษหญ้า และปุ๋ยยูเรียทุกชั้น
- ผสมสารละลาย ประกอบด้วยสารเร่งซุปเปอร์ พด.1 กับน้ำสะอาด 5 ลิตร แล้วนำมาราดบนกองส่วนผสมแต่ละชั้น
- หาวัสดุมาคลุมพร้อมรดน้ำให้พอชุ่ม คอยดูแลกลับกองปุ๋ยทุก ๆ สัปดาห์ ใช้เวลาในการหมักนานประมาณ 45 วัน ก็จะได้เป็นปุ๋ยหมักชีวภาพที่พร้อมแก่การใช้งาน
ประโยชน์จากการใช้ปุ๋ยหมัก
ปุ๋ยหมักนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะได้ทางหนึ่งแล้ว กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้อธิบายถึงประโยชน์ของปุ๋ยหมักไว้อีกมากมาย เช่น
- ปุ๋ยหมักเป็นการนำขยะอินทรีย์มาใช้ประโยชน์ใหม่ จึงช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์เข้าระบบการจัดการขยะได้
- ปุ๋ยหมักบางชนิดมีจุลินทรีย์ที่ช่วยยับยั้งและป้องกันจุลินทรีย์ที่ทำให้พืชเป็นโรคได้
- ปุ๋ยหมักมีธาตุอาหารครบถ้วน ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม
- ปุ๋ยหมักเป็นแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตในดินที่เป็นประโยชน์ จึงช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น
- ปุ๋ยหมักมักจะปล่อยธาตุอาหารให้พืชอย่างช้า ๆ ทำให้อยู่ในดินได้ค่อนข้างนาน จึงมีโอกาสเสียน้อยกว่าปุ๋ยเคมี
- ปุ๋ยหมักช่วยปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของดินให้เหมาะสมได้ ต่างจากปุ๋ยเคมีที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนประกอบ จึงอาจจะทำให้ดินแปรสภาพเป็นกรด
- ปุ๋ยหมักช่วยเพิ่มจุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ ทำให้โครงสร้างของดินดีขึ้น เช่น ร่วนซุย ระบายน้ำดี ถ่ายเทอากาศสะดวก และรากแผ่กระจายหาอาหารง่ายขึ้น ในขณะที่ปุ๋ยเคมีไม่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงดินใด ๆ
- ปุ๋ยหมักช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้ประหยัดเงิน เพราะสามารถใช้แทนปุ๋ยเคมีได้ สามารถลดปริมาณการซื้อปุ๋ยเคมีลงได้ แถมยังไม่ต้องเสียเงินซื้อสารเคมีหรือยาป้องกันแมลงศัตรูพืชด้วย
จะเห็นเลยว่ามีเศษขยะอินทรีย์หลายชนิดที่สามารถนำกลับมาทำปุ๋ยหมักได้ แถมประโยชน์ยังดีงาม คุ้มค่า มีประสิทธิภาพไม่แพ้ปุ๋ยเคมีเลยด้วย เอาเป็นว่าต่อไปนี้นอกจากจะคัดแยกขยะก่อนทิ้งแล้ว อย่าลืมนำขยะอินทรีย์ที่คัดแยกไว้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กันด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
- ดร.กัญณภัทร ชื่นวงศ์ สถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ผศ. ดร.สุธาทิพย์ สินยัง สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- ดร.เพ็ญศิริ ประชากิตติกุล สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ สำนักสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี
- ดร.ธนิตา อารีรบ สาขาวิชาเทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม คณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต
- กรมควบคุมมลพิษ
- กรมพัฒนาที่ดิน
ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า
สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. 2562
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก กระปุกดอทคอม
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ