บทความเกษตร/เทคโนโลยี » การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ แนะนำวิธีปลูกแบบระเอียด

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ แนะนำวิธีปลูกแบบระเอียด

21 ธันวาคม 2024
204   0

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ แนะนำวิธีปลูกแบบระเอียด

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

   สวัสดีครับในบทความนี้เราจะพามาเรียนรู้  “การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์” สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นการปลูกผักที่สามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้และ สามารถลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร ส่งผลให้ได้ผลผลิตผักนั้นทมีคุณภาพและยังเป็นการผลิตผักที่สามารถทำได้ในสภาพพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม สำหรับการทำการเกษตร การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ สามารถปลูกเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนและปลูกเพื่อเป็นการขายสร้างรายได้เสริมอีกหนึ่งช่องทาง

ข้อดีของการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ คือ สามารถทำการปลูกผักในบริเวณที่พื้นดินไม่เหมาะสมหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกผัก ใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกน้อยและสามารถทำการผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ ควบคุบคุมสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตได้  อีกทั้งประหยัดเวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายในการเตรียมดินและกำจัดวัชพืช

ข้อเสียของระบบไฮโดรโปนิกส์

  • การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์จะมีต้นทุนการผลิตเริ่มต้นค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ในการเพาะปลูกต่าง ๆ มากมายและมีราคาแพง แต่มีศักยภาพในการคืนทุนเร็ว (ในปัจจุบันเราสามารถหาซื้อชุดปลูกผักสำเร็จรูปได้ในแบบราคาย่อมเยา หรือจะศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อทำเองก็ได้)
  • ผู้ปลูกต้องมีความชำนาญและมีประสบการณ์มากพอสมควรในการควบคุมดูแล เพราะถ้าไม่มีความรู้หรือไม่มีความสามารถในการจัดการที่ดีพอก็อาจทำให้พืชผักที่ปลูกมีปริมาณธาตุอาหารในพืชสูงได้
  • ผู้ปลูกจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของสรีรวิทยาของชนิดพืชที่จะปลูก รวมไปถึงพื้นฐานทางเคมีและธาตุอาหารที่พืชต้องการ
  • การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ต้องมีการควบคุมดูแลอย่างสม่ำเสมอ
  • วัสดุที่ใช้ในการเพาะปลูกบางอย่างจะเน่าเปื่อยหรือสลายตัวได้ยาก ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าหากไม่มีการจัดการที่ดีพอ
  • มีข้อจำกัดของชนิดพืชที่ปลูกมีค่อนข้างสูง ทำให้การเลือกพืชที่จะเพาะปลูกในเชิงพาณิชย์จะต้องมีการศึกษาตลาดอย่างถี่ถ้วน และควรเป็นพืชที่แตกต่างจากพืชที่ปลูกกันอยู่ทั่วไปบนดิน

วัสดุอุปกรณ์สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

วัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อ การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับลักษณะของการปลูก ซึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ควรมีราคาไม่สูงมากนัก แต่มีคุณภาพดีและหาซื้อได้สะพวก นอกจากนี้ ยังสามารถนำวัสตสิ่งของเหลือใช้ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ใน การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ได้อีกด้วย ปกติแล้ววัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็น สำหรับการบการปลูกผักโฮโตรโปนิกส์

  • เมล็ดพันธุ์ผัก
  • ถาดเพาะเมล็ด
  • ผ้าขาวบาง
  • ถ้วยปลูก
  • รางสำหรับปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
  • ปุ๋ย A – B
  • ฟองน้ำขนาด 1×1 นิ้ว

วิธีการ 

1.ทำการเพาะเมล็ดก่อนโดยวางเมล็ดผักลงบนผ้าขาวบางชุ่มน้ำ จากนั้นวางไว้ในที่ทึบแสง

2. เมื่อรากแก้วเริ่มงอกแล้ว ย้ายเมล็ดผักมาปลูกฟองน้ำ จากนั้นรดน้ำให้มีความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ

3. ผสมปุ๋ย A – B อัตราส่วน 5 มล. ต่อน้ำ 1 ลิตร จากนั้นเติมน้ำที่ผสมสารอาหารปริมาณ 10 ลิตร ลงไปในราง

การเตรียมสารละลายธาตุอาหารเพื่อใช้ปลูกพืชมี 2 แบบ คือการเตรียมสารละลายแบบเจือจาง และการเตรียมสารละลายแบบเข้มข้น (Stock Solution)

  • การเตรียมสารละลายธาตุอาหารพืชแบบเจือจาง
    เป็นการเตรียมสารละลายธาตุอาหารพืชเพื่อใช้ในถังที่ไช้ปลูกพืชโดยตรง การเตรียมแบบนี้สะดวก แต่ต้องเตรียมบ่อย ๆ เริ่มจากเมื่อทราบปริมาณของธาตุอาหาร คำนวมน้ำหนักและจัดหาปุ๋ยเคมี ผสมสนปุ๋ยเคมีทั้งหมดในน้ำสะอาดแล้วเติมน้ำจนครบ
  •  การเตรียมสารละลายธาตุอาหารพืชแบบเข้มข้น
    การเตรียมสารละลายธาตุอาหารที่มีความเข้มข้น (StockSolution) จะเริ่มจากการเตรียมสารละลายธาตุอาหารแบบเข้มข้นไว้ 2 ถัง เรียกว่า Stock Solution A was Stock Solution B และเมื่อต้องการใช้ก็จะเอา Stock Solution มาผสมให้เจือจางตามอัตราส่วนที่กำหนดตามความต้องการ

สาเหตุที่ต้องแยกออกเป็น Stock Solution A และ Stock Solution B เพื่อเป็นการป้องกันการทำปฏิกิริยาทางเคมีของสาร โดยจะแยกแคลเซียมและเหล็กไว้ด้วยกัน ส่วนอีกถังจะผสมธาตุอื่น ๆ ทั้งหมด ส่วนโพแทสเซียมไนเตรตจะไม่ทำปฏิกิริยาก็จะเฉลี่ยใส่ทั้ง 2 ถัง

4. นำฟองน้ำที่เพาะเมล็ดจนเป็นต้นกล้าสูงประมาณ 1.5 นิ้ว มามาวางลงในหลุมบนรางสำหรับปลูกผักดูแลด้วยการเติมน้ำและสารอาหารในรางอย่างสม่ำเสมอ

5. ระยะการเก็บเกี่ยวครบ 45 วัน

การจัดการน้ำในระบบสารละลายธาตุอาหารพืช

ควรรักษาปริมาณน้ำในระบบปลูกให้คงที่ตลอดเวลา เพื่อให้ผักสามารถเจริญเติบโตได้ดี ผักจะใช้น้ำในอัตราที่สูงกว่าตัวธาตุอาหารพืช ถ้าปริมาณน้ำลดลงจะทำให้ความเข้มข้นและปริมาณธาตุอาหารพืชแต่ละชนิด เพิ่มขึ้นปริมาณน้ำจะลดลงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของแปลงที่ปลูก ปริมาณและชนิดของผัก และสภาพภูมิอากาศภายนอก

ศัตรูพืช

สิ่งที่จัดได้ว่าเป็นศัตรูพืช ได้แก่ โรค แมลง และวัชพืช ซึ่งการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์มักพบปัญหาเกี่ยวกับโรคและแมลง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของโรคมากกว่าแมลง การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์โดยเฉพาะในระบบปิดที่มีการใช้สารละลายธาตุอาหารหมุนเวียนอยู่ตลอด หากเกิดการระบาดของโรคจะก่อให้เกิดความเสียหายไปทั้งระบบ เนื่องจากเชื้อโรคจะติดไปกับสารละลายธาตุอาหารและพืชก็ดูดสารละลายไปใช้ก็จะทำให้ได้รับเชื้อด้วยเช่นกัน

การตลาดของการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

ในปัจจุบันประชาชนให้ความสนใจกับการปลูกผักโฮโดรโปนิกส์เพิ่มมากขึ้นและในการทำธุรกิจนี้ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกผักกินใบมากกว่า เนื่องจากมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น สามารถทำรอบการผลิตได้บ่อยครั้ง และง่ายต่อการดูแลรักษาผลผลิตของผักที่ได้จากปลูกผักไฮโดรโปนิกส์จะสังเกตได้ง่ายคือ

ผลผลิตจะมีรากและวัสดุปลูกติดมาด้วย สังเกตได้ว่าถ้ารากพืชยาวและขาว แสดงว่าพืชมีการเจริญเติบโตที่ดี ผลผลิตส่วนใหญ่จะบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส เพื่อให้สามารถเห็นรูปร่างของผลผลิต

การตลาดส่วนใหญ่ของพืชที่ปลูกในระบบนี้มีทั้งที่จำหน่ายหน้าสวนตัวเองมีพ่อค้าคนกลางมารับและมีการขายส่งไปแหล่งต่าง ๆ เช่น โรงแรม ภัตตาคารร้านอาหาร ตลาดกลางและห้างสรรพสินค้า ซึ่งตลาดของผักที่ปลูกโดยผักไฮโดรโปนิกส์กำลังขยายตัวไปได้ดี เนื่องจากผักที่ปลูกในระบบนี้จัดได้ว่ามีความปลอดภัยจากสารเคมี ผู้บริโภคจึงนิยมบริโภคกันมากขึ้น

ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ