ท้อแค่ไหน แค่เปลี่ยนวิธีคิดก็ประสบความสำเร็จได้
ในชีวิตการทำงาน หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ที่ต้องการอยู่ในภาวะสงบนิ่ง เหมือนร่างกายและสมองทำงานช้าลง จนบางทีไม่ต้องการทำอะไรทั้งสิ้น หรือเรียกว่า หมดไฟ นั่นเอง
แต่เมื่อคิดถึงงานที่มีกำหนดส่งใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ถ้าอยู่นิ่งเฉยต่อไปงานก็ไม่สำเร็จแน่นอน วันนี้เราจึงขอนำเสนอ 5 วิธีสร้างแรงผลักดัน ที่อาจช่วยให้งานสำเร็จได้ง่ายขึ้นง่ายๆ ถ้าได้ทำ 5 วิธีสร้างแรงผลักดังนี้
- เขียนลำดับความสำคัญของงาน
ถ้าหากเรามีหลายงานที่ต้องจัดการ ก็ควรเขียนเป็นลำดับความสำคัญว่าต้องทำงานชิ้นไหนก่อน Knoware แนะนำให้เขียนลงบนกระดาษและติดไว้ที่โต๊ะทำงาน เพื่อที่จะได้มองเห็นชัด บางคนชอบนึกอยู่ในใจคิดว่าจำได้แน่นอน แต่ก็อาจทำให้เกิดความผิดพลาด และเมื่อเราได้ลองลำดับงานที่ต้องทำดูแล้ว ความเหนื่อยล้าก็อาจจะหายไปโดยปริยาย เพราะเจอเส้นตายของเวลางานที่ต้องรีบส่งก็เป็นได้ - หลังความยากลำบากจะมีความง่ายดาย
เมื่อลองมองดูลักษณะงานบางงานแล้ว เกิดความรู้สึกยากลำบากในการจัดการให้สำเร็จ หลายครั้งก็จะเกิดความคิดว่าไม่อยากทำไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราต้องปรับแนวคิดนี้ใหม่เสียก่อนึค่ะ ให้คิดเสียว่าหลังความยากลำบากก็จะมีความง่ายตามมา เพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเองก่อน แล้วค่อย ๆ ลงมือทำ ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นได้แน่นอน - หยุดผัดวันประกันพรุ่ง
ความคิดว่าเดี๋ยวจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำเสียที หรือที่เรียกว่าการผัดวันประกันพรุ่ง เป็นนิสัยที่ควรกำจัดให้หมดไปถ้าอยากให้งานสำเร็จ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าจะมีงานอะไรแทรกเข้ามาอีก ระหว่างที่เราใช้เวลาไปกับสิ่งไร้สาระอย่างอื่น และสุดท้ายงานที่ต้องทำก็จะทับถมกันจนเป็นดินพอกหางหมูได้นั่นเอง - ก้าวที่มั่นคงและสม่ำเสมอ จะทำให้พบเจอกับความสำเร็จได้
ลักษณะงานหลาย ๆ งานเป็นงานที่ไม่สามารถทำให้สำเร็จภายในครั้งเดียว ถ้าหากถอดใจไปก่อนไม่ลงมือทำเลยก็ไม่มีทางสำเร็จแน่นอน เราควรใช้วิธีทำทีละน้อย แต่ทำแบบสม่ำเสมอ ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวันก็จะช่วยให้การทำงานนั้นสำเร็จง่ายขึ้น - ให้รางวัลแก่ตัวเอง เมื่อทำสำเร็จตามเป้าหมาย
การวางแผนการทำงานและตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้งานออกมาสำเร็จด้วยดี ซึ่งเมื่อเราทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ ก็ควรให้รางวัลแก่ตัวเองบ้าง เพื่อเป็นการผ่อนคลายและสร้างกำลังใจเตรียมพร้อมที่จะสู้กับงานต่อไปที่รออยู่ ถ้าคิดว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ง่ายเกินไปสำหรับมาตรฐานของเรา ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้ยากขึ้น เพื่อที่จะเป็นการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาด้วย
นอกจาก 5 วิธีข้างต้นแล้ว เคล็ดลับที่สำคัญคือ การลงมือทำจริงจังและทำทันที ค่อย ๆ สะสางงานไปตามลำดับความสำคัญ ลดกิจกรรมเปล่าประโยชน์ที่รบกวนเวลาทำงานออกไป งานก็จะสำเร็จได้ตามที่ต้องการแน่นอน
ขอบคุณที่มา | know-are.com
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ