บทความเกษตร/เทคโนโลยี » เทคนิคการปลูกมะเขือเปราะ ให้ได้ผลดก ( Thai Eggplant )

เทคนิคการปลูกมะเขือเปราะ ให้ได้ผลดก ( Thai Eggplant )

28 ธันวาคม 2021
2507   0

เทคนิคการปลูกมะเขือเปราะ ให้ได้ผลดก ( Thai Eggplant )

เทคนิคการปลูกมะเขือเปราะ

เทคนิคการปลูกมะเขือเปราะ


มะเขือเปราะ ( Thai Eggplant ) เป็นพืชที่มีอายุยืน  สามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด  สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี  ลักษณะเด่นประจำพันธุ์  คือ  ผลดกโดยเฉลี่ยประมาณ  21  ผล/ต้น กรอบอร่อย ผลเป็นสีเขียวสลับขาว  ต้นมะเขือสามารถบำรุงรักษาไว้ได้นานเกิน  1  ปี




การเพาะกล้ามะเขือเปราะ

  • ให้เตรียมดินละเอียดพร้อมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2:1 และใส่ดินผสมดังกล่าวลงในถาดเพาะกล้า
  • นำเมล็ดมะเขือเปราะหยอดลงในหลุมปลูก หลุมละ 1-2 เมล็ด กลบดินผิวหน้าเมล็ดไปจากถาดพลาสติกเพาะกล้าโดยใช้ปูนขาวโรยเป็นเส้นล้อมถาดเพาะไว้
  • หลังเพาะนาน 7-10 วัน มะเขือเปราะเริ่มงอก หมั่นรดน้ำต้นกล้ามะเขือเปราะทุกวันๆ ละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเข้าและเย็นจนกระทั่งต้นกล้ามะเขือเปราะมีอายุ 25-30 วัน จึงย้ายกล้ามะเขือเปราะลงปลูกในกระถางหรือในแปลงปลูก

**ในกรณีปลูกในกระถาง ให้ผสมดินปลูกในกระถาง โดยใช้ดินร่วนละเอียดผสมกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ในอัตรา 2:1

การปลูกและการดูแลรักษา

  1. ย้ายกล้ามะเขือเปราะลงปลูกในแปลง หรือในกระถาง
  2. รดน้ำทุกวัน และในช่วงการติดผลต้องระมัดระวังในน้ำอย่างสม่ำเสมอ
  3. หลังย้ายปลูกแล้ว 7-10 วัน ให้ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตราต้นละ 1/4 ช้อนชา ควรโรยปุ๋ยห่างโคนต้นประมาณ 2-3 เซนติเมตรและรดน้ำทันที
  4. ควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตราต้นละ 1/4 ช้อนชาทุกๆ 15 วัน
  5. หลังย้ายปลูกนาน 45-60 วัน มะเขือเปราะเริ่มทยอยผลผลิต สามารถเก็บผลผลิตไปบริโภคได้

**การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืชไม่ควรให้แห้งหรือแฉะมากเกินไป

โรค – แมลง

มีหนอนเจาะผลมารบกวนบ้าง  แต่ก็ไม่มากนัก  แก้ปัญหาโดยการฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้และเด็ดผลที่หนอนเจาะทิ้งเพื่อต้นพืชจะได้ไม่ต้องส่งอาหารไปเลี้ยงผลที่เสีย

การเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อทำพันธุ์ต่อไป

ช่วงอายุประมาณ  95-100  วัน  ดอกจะเริ่มทยอยบาน ซึ่งจะบานไม่พร้อมกัน ผลก็จะเริ่มแก่ซึ่งอายุจะอยู่ที่  180  วัน  ต้องทยอยเก็บผลที่เป็นสีเหลืองทั้งผล  จากนั้นนำมาทิ้งไว้ในร่มประมาณ  2-3  วัน  แล้วนวดผลเพื่อให้เมล็ดหลุดอออกจากเนื้อผล แล้วฝ่าเอาเมล็ดออก จากนั้นล้างทำความสะอาดเมล็ด  เมล็ดที่จมจะเป็นเมล็ดที่ดี ส่วนเมล็ดที่ลอยเป็นเมล็ดที่ไม่ดีให้เททิ้งไป  จากนั้นใช้ตะแกรงล้างน้ำผ่านอีกครั้ง  ทิ้งไว้ให้หมาดก่อนแล้วค่อยนำมาตากแดด(ในการตากควรใช้ผ้ารองเมล็ดตากก่อน)  ตากประมาณ  3-4  แดด  แล้วเช็คความสะอาดอีกรอบ  แล้วค่อยเก็บใส่ถุงกระดาษเขียนชื่อและวันเดือนปีที่เก็บแล้วพับใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาอัตราการงอก  และลดการหายใจของเมล็ดพันธุ์ให้น้อยที่สุด  จะสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ได้นานเกิน  2  ปีขึ้นไป