บทความเกษตร/เทคโนโลยี » น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง ของดีสารพัดประโยชน์

น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง ของดีสารพัดประโยชน์

11 มิถุนายน 2021
2404   0

น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง ของดีสารพัดประโยชน์

น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง

น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง


“น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง ของดีสารพัดประโยชน์” น้ำส้มควันไม้ (Wood vinegar) คือ ควันที่เกิดจากการเผาถ่านในช่วงที่ไม้กำลังเปลี่ยนเป็นถ่านเมื่อทำ ให้เย็นลงจนควบแน่น แล้วกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ของเหลวที่ได้นี้เองเรียกว่า น้ำส้มควันไม้ น้ำส้มควันไม้มีสารประกอบต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่เป็นกรดอะซิติก มีความเป็นกรดต่ำ เป็นสีน้ำตาลแกมแดง หากนำน้ำส้มควันไม้ที่ได้ไปทิ้งไว้ในที่ร่มในภาชนะพลาสติกประมาณ 3 เดือน ไม่สั่นสะเทือนเพื่อให้น้ำส้มควันไม้ที่ได้ตกตะกอนและแยกตัวเป็น 3 ชั้น คือ น้ำมันเบา (ลอยอยู่ผิวน้ำ) น้ำส้มไม้ และน้ำมันทาร์ (ตกตะกอนอยู่ด้านล่าง) สามารถแยกน้ำส้มควันไม้มาใช้ประโยชน์ต่อไปได้ในปริมาณความเข้มข้นระดับต่างๆ

การเก็บรักษาน้ำส้มควันไม้




เนื่องจากการเปลี่ยนจากไม้ถ่านไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งเตา ดังนั้น ควันที่เกิดขึ้นจึงเป็นควันที่ผสมกันระหว่างควันอุณหภูมิต่ำและสูง ดังนั้นจะมีน้ำมันดิน (Tar) และสารระเหยง่าย (Volatile matter) ปนออกมาด้วย น้ำมันดินที่ละลายน้ำไม่ได้ จะนำไปใช้ประโยชน์ในการเกษตรไม่ได้ เพราะจะไม่ไปปิดปากใบของพืช และการเกาะติดรากพืชทำให้พืชเติบโตช้าหรือตายได้ นอกจากนั้น หากเทลงพื้นดินจะทำให้ดินแข็งเป็นดานรากพืชไม่สามารถไชลงดินได้ ดังนั้นเมื่อเก็บน้ำส้มไม้แล้วต้องทิ้งช่วง และมีการทำให้น้ำส้มไม้บริสุทธิ์ก่อนนำไปใช้ประโยชน์อย่างน้อย 3 เดือน แล้วต้องเก็บไว้ในที่เย็น ร่มหรือเก็บไว้ในภาชนะทึบแสงและไม่มีสิ่งรบกวน หากเก็บไว้ที่โล่งแจ้ง น้ำส้มควันไม้จะทำปฏิกิริยากับอากาศและรังสีอุลตราไวโอเลทในแสงอาทิตย์เป็นน้ำมันดิน ซึ่งน้ำมันดินก็จะมีสารก่อมะเร็งด้วย และหากนำไปใช้กับพืช น้ำมันจะจับกับใบไม้ ทำให้ต้นไม้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ดี ดังที่กล่าวไปแล้ว

การใช้ประโยชน์จากน้ำส้มควันไม้

ด้านการเกษตร

เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีความเป็นกรดสูง ดังนั้นก่อนนำไปใช้ต้องนำมาเจือจางให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ซึ่งอัตราส่วนที่ต่างกันออกไปดังนี้

  • อัตราส่วน 1:20 หรือ ผสมน้ำ 20 เท่า ใช้พ่นลงดินเพื่อฆ่าจุลินทรีย์และแมลงในดิน เช่น โรคเน่าเละจากแบคทีเรีย โคนเน่าจากเชื้อรา ไส้เดือนฝอย ควรทำก่อนเพาะปลูก 10 วัน เพราะน้ำส้มควันไม้ ที่รดลงดินจะไปทำปฏิกิริยากับสารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เกิดคาร์บอนโมโนออกไซด์(CO)ซึ่งเป็นพิษต่อพืช แต่เมื่อแก๊สคาร์บอนโมโนออกไซด์ ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเปลี่ยนเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO) แล้วจึงจะสามารถปลูกพืชได้ รวมทั้งพืชจะได้รับประโยชน์จาก C2O
  • อัตราส่วน 1:50 หรือ ผสมน้ำ 50 เท่า ใช้พ่นลงดินเพื่อฆ่าจุลินทรีย์ที่ทำลายพืช หากใช้ความเข้มข้นมากเกินไปรากพืชอาจได้รับอันตรายได้
  • อัตราส่วน 1:100 หรือ ผสมน้ำ 100 เท่า ใช้ราดโคนต้นไม้รักษาโรครา และโรคเน่า รวมทั้งป้องกันแมลงไม่ให้วางไข่
  • อัตราส่วน 1:200 หรือ ผสมน้ำ 200 เท่า ใช้ฉีดพ่นใบไม้ รวมทั้งพื้นดินรอบๆ ต้นพืช ทุกๆ 7 – 15 วัน เพื่อขับไล่แมลงป้องกันเชื้อรา และรดโคนต้นเพื่อเร่งการเจริญเติบโต
  • อัตราส่วน 1:500 หรือ ผสมน้ำ 500 เท่า ใช้ฉีดผลอ่อน หรือ พืช เพื่อช่วยขยายผลให้โตขึ้น หลังจากติดตามผลแล้ว 15 วัน และฉีดพ่นอีกครั้งก่อนเก็บเกี่ยว 20 วัน เพื่อเพิ่มน้ำตาลในผลไม้อีกด้วย เนื่องจากน้ำส้มควันไม้ช่วยการสังเคราะห์น้ำตาลและกรดอะมิโน ดังนั้นจึงเพิ่มทั้งผลผลิตและคุณภาพ
  • อัตราส่วน 1:1000 หรือ ผสมน้ำ 1000 เท่า เป็นสารจับใบ จะช่วยลดการใช้สารเคมี เนื่องจากสารเคมีสามารถออกฤทธิ์ได้ดีในสารละลายที่เป็นกรดอ่อนๆ และสามารถลดการใช้สารเคมีมากกว่าครึ่งที่เคยใช้




การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ด้านปศุสัตว์

การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ด้านปศุสัตว์ จะช่วยลดกลิ่นและแมลงในฟาร์มปศุสัตว์ โดยการใช้ครั้งแรกควรผสมน้ำ 100 เท่า หลังจากนั้นเพิ่มเป็นผสมน้ำ 200 เท่า จะกำจัดกลิ่นและลดจำนวนแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นใช้ผสมอาหารสัตว์ เพื่อช่วยการย่อยอาหารและป้องกันโรคท้องเสีย แต่การให้โดยตรงโดยการผสมน้ำจะมีกลิ่นควันไฟ ควรนำไปผสมกับผงถ่านเสียก่อน โดยนำน้ำส้มควันไม้ 2 ลิตร ผสมกับผงถ่าน 8 กิโลกรัม แล้วนำผงถ่านที่ชุ่มด้วนน้ำส้มควันไม้นี้ไปผสมกับอาหารสัตว์ 99 กิโลกรัม ก็จะได้อาหารสัตว์ 1 ตันพอดี ถ่านผสมอาหารสัตว์ จะมีคุณสมบัติแล้วประโยชน์ ดังนี้

  1. ช่วยทำให้การย่อยและการใช้ประโยชน์จากอาหารได้ดีขึ้น ทำให้สัตว์โตเร็วกว่าปกติ โดยใช้อาหารเท่าเดิม หรือใช้อาหารน้อยลง 5 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเดิม
  2. ช่วยยับยั้งการเกิดแก๊ส และดูดซึมโลหะหนักในกระเพาะอาหารทำให้สัตว์สุขภาพดี
  3. ช่วยป้องกันและรักษาอาการท้องเสีย
  4. ช่วยปรับปรุงคุณภาพ และลดปริมาณน้ำในเนื้อสัตว์ ทำให้คุณภาพของเนื้อสัตว์ดีขึ้นทั้งรสชาติ สี และกลิ่น
  5. ช่วยปรับปรุงคุณภาพของไข่ ทำให้ไข่แดงใหญ่และเหนียวขึ้น ทั้งยังเพิ่มปริมาณวิตามิน และลดคลอเลสเตอรอล
  6. ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในนม
  7. ช่วยยับยั้งการเกิดก๊าซแอมโมเนีย และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำให้ลดกลิ่นของมูลสัตว์ ซึ่งช่วยให้สัตว์ไม่เครียด ทั้งยังเพิ่มคุณภาพของปุ๋ยคอกที่ได้จากมูลสัตว์ให้ดีขึ้นด้วย
  8. ช่วยยับยั้งการฟักไข่ของแมลงในมูลสัตว์ ทำให้ลดปริมาณของแมลงในบริเวณฟาร์ม โดยเฉพาะแมลงวัน

การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ด้านอื่นๆ ทั่วไป



นอกจากการนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ในเรื่องการเกษตรและปศุสัตว์แล้ว ยังสามารถนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ได้อีก เช่น

  • ความเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้รักษาแผลสด แผลถูกน้ำร้อนและไฟลวก รักษาโรคน้ำกัดเท้าและเชื้อราที่ผิวหนัง
  • น้ำส้มควันไม้ ผสมน้ำ 20 เท่า ใช้ราดทำลายปลวกและมด
  • น้ำส้มควันไม้ ผสมน้ำ 50 เท่า ใช้ป้องกันปลวก มด และสัตว์ต่างๆ เช่น ตะขาบ แมงป่อง กิ้งกือ
  • น้ำส้มควันไม้ ผสมน้ำ 100 เท่า ใช้ฉีดพ่นถังขยะ เพื่อป้องกันกลิ่นและแมลงวัน ใช้ดับกลิ่นในห้องน้ำ ห้องครัวและบริเวณชื้นแฉะ ใช้ดับกลิ่นกรงสัตว์เลี้ยง ใช้หมักขยะสดและเศษอาหารเป็นปุ๋ยสำหรับไม้ประดับรอบบ้าน โดยต้องผสมน้ำอีก 5 เท่า หลังจากหมักแล้ว 1 เดือน

ข้อควรระวังในการนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้

  1. ก่อนนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ ต้องทิ้งไว้หลังจากดักเก็บไว้อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้เกิดการตกตะกอน แยกเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำส้มควันไม้สำหรับนำไปใช้
  2. การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ประโยชน์นั้นควรระวังอย่าให้เข้าตา เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีคุณสมบัติเป็นกรดสูง
  3. น้ำส้มควันไม้ไม่ใช่ปุ๋ย แต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ดังนั้นการนำไปใช้ในทางการเกษตร จะเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพให้กับพืชใช้แทนปุ๋ยไม่ได้
  4. การใช้น้ำส้มควันไม้เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และแมลงในดินเป็นโทษกับพืช ควรทำก่อนเพาะปลูกอย่างน้อย 10 วัน
  5. การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ต้องผสมน้ำให้เจือจางตามความเหมาะสมของพืชแต่ละชนิด หากใช้กับพืชกินใบ ควรใช้ฉีดพ่นใต้ใบ เนื่องจากจะช่วยขับไล่แมลงใต้ใบ
  6. การฉีดน้ำส้มควันไม้เพื่อช่วยให้ดอกติดใบ ควรฉีดก่อนที่ดอกจะบาน เนื่องจากหากฉีดหลังจากดอกบานจะทำให้แมลงไม่เข้ามาผสมเกสร เพราะกลิ่นฉุนของน้ำส้มควันไม้และดอกจะหลุดร่วงง่าย

ขอบคุณแหล่งที่มาและ รูปภาพ :https://www.doa.go.th (กรมวิชาการเกษตร)


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ