หนูพุก กับ หนูแผง มีรูปร่างลักษณะทั่วไปคล้ายกับหนูทั่วไปในวงศ์ Murinae แต่ทว่ามีรูปร่างที่ใหญ่กว่าหนูในสกุล Rattus มาก และมีจุดเด่นที่มีขนสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลดำที่รุงรังไม่เป็นระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนบริเวณหลังที่เป็นแผงแข็ง หลังตีนเป็นสีดำ หางยาวมีเกล็ดสีเดียวเป็นหนูที่มีอุปนิสัยดุร้าย เมื่อถูกคุกคามจะขู่และพร้อมที่จะกัดในซึ่งในประเทศไทยนั้นมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ

  • หนูพุกหรือหนูพุกเล็ก มีน้ำหนักตัวประมาณ 300- 400 กรัม ที่คุ้นตาเราๆก็คือหนูตัวใหญ่ๆตัวที่อยู่ตามท่อหรือตลาดสด
  • หนูแผงหรือหนูพุกใหญ่ มีน้ำหนักตัวประมาณ 700 กรัม ขนด้านหลังเป็นแผงตั้งเด่นสมชื่อ ถ้าเป็นหนูเลี้ยงหนูแผงจากที่เคยเห็นมีน้ำหนักถึง 1.5 กก.เลยทีเดียว บางพื้นที่ก็จะเรียกร่วมๆว่าหนูพุกจึงเป็นที่สับสนของคนทั่วไปว่าตัวไหนหนูพุกตัวไหนหนูแผง เป็นคำถามที่ถามกันบ่อยมาก

สำหรับหนูพุกนั้นคนนิยมนำมาทำอาหารกินมากมายหลายเมนู ซึ่งเรียกได้ว่าจะปิ้ง จะย่างหรือแกงอ้อม ก็อร่อยทั้งนั้น ซึ่งทุกวันนี้หาตามธรรมชาติค่อนข้างน้อย จึงเป็นสาเหตุให้ต้องเลี้ยงและนำมาเพื่อจำหน่ายในราคาที่ ค่อนข้างดีเลยที่เดียวครับ

วิธีเลี้ยงและการดูแลแม่พันธ์ุตั้งท้องและคลอดลูก

  • คัดหาพ่อพันธ์ุ-แม่พันธ์ุหนูนา จะหาจากธรรมชาติหรือหาซื้อตามฟาร์มก็ได้ตามความสะดวก อายุของหนูนาที่เริ่มผสมพันธุ์อยู่ที่ประมาณ  4 เดือน ขึ้นไป ตามความสมบูรณ์ของการเลี้ยง
  • หากเลี้ยงในท่อแบบท่อเดียวให้ใช้อัตราในการผสมอยู่ที่ 1:1 หากเลี้ยงแบบท่อต่อกัน 2-3 ท่อ ก็สามารถผสมพันธ์ุได้ถึง 7-8 คู่เลย สามารถใส่ตัวผูู้และตัวเมียเท่ากันหรือจะแบ่งเป็นตัวผู้ 3 ตัวเมีย5-6ตัวก็ได้ 
  • ระยะเวลาในการผสมพันธ์ุของพ่อพันธ์ุ-แม่พันธุ์จะอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน
  • เมื่อแม่พันธุ์เริ่มตั้งท้องให้จับแม่หนูนาแยกออกจากบ่อ เพราะหนูนาตัวผู้จะกินลูกหนูนาที่พึ่งคลอดเพราะผิดกลิ่น
  • หนูนาจะใช้เวลาตั้งท้องอยู่ที่ 1 เดือนก็จะคลอดลูก ก็ให้แม่หนูเลี้ยงลูกหนูนาด้วยนมของเค้าอีกประมาณ 1 เดือนค่อยจับแม่พันธ์ุแยกออกมา
  • แม่พันธ์ุที่สมบูรณ์จะสามารถคลอดลูกได้ครั้งล่ะ 7-10 ตัว
  • แม่พันธ์ุที่ให้นมลูกและเลี้ยงลูกหนูนาได้1เดือนแล้วสามารถนำไปผสมพันธ์ุได้ต่อเลย

อาหารที่ใช้ในการเลี้ยงหนูนา

สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงหนูนั้น ก็ไม่อยาก ให้อาหารวันล่ะครั้งเขาจะกินอาหารตอนกลางคืน​ เราก็เอาน้ำเอาอารหารใส่ใว้ให้เขาตอนเย็น​ครั้งเดียงพอ​ซึ่งง่ายมากใช้เวลาน้อย

แหล่งอาหารที่หาได้จากธรรมชาติ

หนูพุกเป็นสัตว์ที่กินง่าย และกินอาหารแทบทุกประเภท ซึ่งแน่นนอนแหล่งอาหารที่สามารถหาได้ตามธรรมชาตินั้นก็จะมีมากเช่นกัน และ ที่สำคัญนั้นจะช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงได้อีกด้วย ยกตัวอย่าง แหล่งอาหารที่ได้จากธรรมเช่น หญ้าขน,อ้อย,มันสัมปะหลัง,ผลไม้,กุ้งหอยปูปลา,ข้าวเปลือก  เป็นต้น  และอื่นๆอีกมากมายตามความเหมาะสมแต่ล่ะพื้นที่ของผู้เลี้ยงเป็นหลัก

แหล่งอาหารที่หาได้ตามท้องตลาด

สำหรับอาหารตามท้องตลาดนั้นนิยมใช้หัวอาหารหมู หรือ หัวอาหารไก่ นิยมนำมาผสมกับข้าวโพดบด ซึ่งหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ร้านขายอาหารสัตว์ 

วงจรชีวิตชีวิตหนูนา

  • ช่วงอายุเฉลี่ยประมาณ 2-3 เดือน แต่อาจอยู่ได้นานถึง 20 เดือน ในป่า หรือมากกว่าสองปี หรือมากกว่านั้นถ้าถูกจับไว้
  • ฤดูผสมพันธุ์จะอยู่ในช่วงเดือน มีนาคม หรือเมษายน ไปจนถึง ตุลาคม หรือพฤศจิกายน และ การตั้งท้องใช้เวลาประมาณ 25 วัน ลูกหนูเริ่มมีขนขึ้นหลังอายุ 6 วัน ลืมตาได้เมื่ออายุ 16 วัน และหย่านมเมื่ออายุประมาณ 18 วัน
  • อัตราการรอดชีวิตของหนูรุ่นเล็ก และตัวเต็มวัยค่อนข้างต่ำในฤดูผสมพันธุ์แรก เนื่องจากตัวผู้เต็มวัยจะก้าวร้าวกับหนูรุ่นเล็กซึ่งมักจะถูกขับออกจากรัง

การเลี้ยงหนูนาแบบธรรมชาติ

การเลี้ยงหนูนา หนูพุก ควรจะเริ่มเลี้ยงจะประมาณเดือนพฤษภาคม โดยสามารถใช้พื้นที่จากการเลี้ยงด้วยโอ่ง โดยแบ่งเลี้ยงใน โอ่ง จำนวน 2 ใบ จากการคัดพันธุ์ลูกหนูพุก หนูนามาจำนวน 10 ตัวขนาด 100 ถึง 200กรัม แบ่งเป็นตัวผู้ 4 ตัวเมีย 6 โดยทำการเลี้ยงในโอ่งแดงใส่ 5 ตัว ต่อโอ่ง คือตัวผู้ 2 ตัวเมีย 3 และทำการใส่ดินใน โอ่งประมาณ1/4 เพื่อให้หนูขุดเป็นที่อยู่และใส่ฟางข้าวหรือหญ้าคาลงไปด้วยเพื่อให้หนูใช้ในการทำรัง ซึ่งหนูที่ใช้เลี้ยงตัวผู้กับตัวเมียต้องต่างพ่อแม่กัน และที่ใช้โอ่งเลี้ยงเพราะสามารถทำฝาครอบแล้วเจาะรู เพื่อป้องกันแมวและกันไม่ให้หนูกระโดดหนีออกไปได้

การเลี้ยงหนูนาในวงบ่อซิเมนต์

สำหรับการเลี้ยงหนูนาในวงบ่อซิเมนต์นั้น  สามารถใช้วงบ่อซิเมนต์ 2 วงวางซ้อนกัน ปล่อยพ่อพัน 1 ตัว ต่อแม่พันธุ์ 5 ตัว  เอาไม้ไผ่ หรือวัสดุที่เป็นโพลง หรือจะเป็นก้อนอิฐก็ได้ทิ้งไว้ให้เป็นที่หลบซ่อน เพราะนิสัยหนูนาชอบอยู่ตามซอก และ ที่มือเวลากลางวัน ชอบออกหารกินหรือหาอาหารเวลากลางคืน  หาฝาครอบไว้ ส่วนอาหารใช้ข้าวเปลือก ข้าวดีด อ้อย หอยเชอร์รี่ และ อาหารสุนัขก็กิน เช่นกัน

     สำหรับการเลี้ยงหนูนานั้นไม่ยากอย่างที่คิดจริงๆ และ ที่สำคัญเพาะพันธ์ุขยายพันธ์ุง่ายและไว ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม่พันธ์ุภายในระยะเวลาหนึ่งนั้นสามารถคลอดลูกได้ถึง 5-6  คอก กัันเลยทีเดียว และตลาดที่รองรับซื้อหนูนาก็เยอะแถบภาคกลางและภาคอีสานนั้น จะเห็นตามข้างทางมีหนูนาย่างจำหน่ายตลอดสาย นั่นคือหนึ่งตลาดแล้วสำหรับมือใหม่ หรือสามารถคัดขายเป็นตัวได้ก็มีอายุอยู่ที่ 3 – 4 เดือน ราคาขายตกอยู่ที่ตัวละ100-200บาทแล้วแต่ขนาดของตัว หนูนาเป็นอาหารอันโอชะของชาวอิสานและก็ตามภาคต่างๆที่นิยมทานกันไม่ว่าจะย่างหอมๆหรือผัดเผ็ดหนูนา,คั่วกลิ้งหนูนานี่ก็เผ็ดอร่อยซึ่งเราสามารถเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักก็ได้ขึ้นอยู่ตามความเหมาะสม  ทุกอาชีพสามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้เสมอ หากเราคิดจะเริ่มก็ศึกษาและก็ลงมือทำอย่างตั้งใจความสำเร็จเกิดขึ้นกับตัวเราอย่างแน่นอน 

ช่องทางการจัดจำหน่าย/การตลาด

การเลี้ยงหนูนาของเกษตรกรในพื้นที่ทั่วประเทศ ถือเป็นอาชีพเสริมจากการทำอาชีพหลัก การเลี้ยงหนูนาทำได้ง่าย ด้วยการจัดหาพ่อพันธ์แม่พันธ์หนูนาที่อยู่ตามท้องไร่ท้องนามาเพาะเลี้ยงในฟาร์มที่เตรียมไว้

หนูนาเลี้ยงง่าย อาหารสามารถคำนวณการให้ได้ล่วงหน้า เหมาะกับคนไม่ค่อยมีเวลา หนู 1 ตัว กินอาหารวันละ 10% ของน้ำหนักตัว หนู 1 เดือนแรกจะกินแต่นมแม่ เดือนที่ 2 น้ำหนักประมาณ 500 กรัม กินอาหารเฉลี่ยวันละ 50 กรัม ระยะนี้หนูจะโตเร็วมาก จนเข้าเดือนที่ 3 จะมีน้ำหนักเพิ่มถึง 4 ขีดครึ่ง กินอาหารเฉลี่ยวันละ 450 กรัม ช่วงเวลาที่เหลือเพิ่มปริมาณอาหารอีกเล็กน้อย จนถึงขนาดพร้อมขาย 5-6 ขีด ขายเป็นหนูเนื้อได้ราคา กก.ละ 200-250 บาท ขายเป็นพ่อแม่พันธุ์คู่ละ 900 บาท ที่นี่เฉพาะขายหนูอย่างเดียวทำรายได้เดือนละ 15,000-20,000 บาท

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : https://www.withikaset.com




บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :