การเพาะเลี้ยงกบนา ดูแลจัดการง่าย รายได้ดี!!
การเพาะเลี้ยงกบนา
การเพาะเลี้ยงกบนา ดูแลจัดการง่าย รายได้ดี คุณสุจินต์ แสงแก้ว เป็นชาวตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เดิมมีอาชีพทำนาและทำสวน ด้วยมีความสนใจในการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (กบ) จึงได้เข้ารับการอบรมการเลี้ยงกบนาจากศูนย์การศึกษาห้วยฮ่องไคร้ฯ และได้รับวัสดุในการก่อสร้างบ่อกบเป็นบ่อซีเมนต์ จำนวน 2 บ่อ และ สายพันธุ์กบ จึงได้พยายามเพาะเลี้ยง ขยายพันธุ์มาเรื่อยๆ และเมื่อมีจำนวนมากขึ้น จึงได้แจกพันธุ์ฟรีให้แก่ชาวบ้านที่มีความสนใจ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกบนาหรือกบพื้นเมือง
กบนา หรือ กบพื้นเมือง พบอาศัยอยู่ทั่วไปในแหล่งน้ำธรรมชาติของทุกภาคในประเทศไทย ลักษณะผิวด้านหลังมีสีน้ำตาลจุดดำ ผิวหนังขรุขระมีรอยย่น ที่ริมฝีปากมีแถบดำ ใต้คางมีจุดดำ หรือแถบลายดำ เมื่อโตเต็มที่มีน้ำหนัก 200 – 400 กรัม “กบนาตัวเมีย” มีขนาดโตกว่าตัวผู้ ตัวเมียพร้อมที่จะผสมพันธุ์ท้องจะมีลักษณะอูมเคลื่อนไหวช้าและข้างลำตัวจะมีตุ่มเมื่อคลำดูมีลักษณะ สากมือ ตุ่มที่ด้านข้างลำตัวแสดงถึงความพร้อมของตัวเมีย “กบนาตัวผู้” มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย มีน้ำหนัก 150–250 กรัม เมื่อโตเต็มที่และพร้อมที่จะผสมพันธุ์จะมองเห็นถุงเสียง เป็นรอยย่นสีดำที่ใต้คาง
ถุงเสียงเกิดจากการที่กบนาตัวผู้ส่งเสียงร้องเรียกตัวเมียในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ตัวผู้พร้อมที่จะผสมพันธุ์ในช่วงนี้ลำตัวจะมีสีเหลือง นิ้วเท้าด้านหน้าจะมีตุ่มที่ขยายใหญ่ขึ้น มองเห็นได้ชัดเจน ตุ่มมีประโยชน์ในการใช้เกาะตัวเมียและตุ่มนี้จะหายไปในช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์
โดยธรรมชาติ กบจะอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำ เช่น ลำห้วย หนอง คลอง บึง และท้องนา กบจะกินปลา กุ้ง แมลง และสัตว์ที่มีขนาดเล็กเป็นอาหาร กบจะผสมพันธุ์กันในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะในวันที่มีฝนตกหนักมากๆ ส่วนมากจะผสมพันธุ์กันในช่วงกลางคืน และจะเริ่มวางไข่ตอนเช้ามืด ตามแหล่งน้ำไม่ลึกมากนัก ประมาณ 10-20 ซ.ม. หรือตามป่าหญ้าที่มีน้ำขังไม่สูงมากนัก แม่กบจะทิ้งไข่ไว้ ให้ฟักเองโดยธรรมชาติ หลังจากนั้นประมาณ 24 ชั่วโมง ไข่จะเริ่มฟักออกเป็นตัว แต่ยังไม่เป็นกบเลย จะเป็นลูกอ๊อดก่อน
ลักษณะลูกอ๊อดจะมีหางและยังไม่มีขา คล้ายๆ กับลูกปลา เมื่อลูกอ๊อดอายุได้ประมาณ 15 วัน ก็จะเริ่มมีขาหลังงอกออกมาทั้ง 2 ข้าง ต่อจากนั้นอีกประมาณ 7 วัน จึงจะเริ่มมีขาหน้างอกออกมา และหางก็จะเริ่มหดหายไปเองภายใน 30 วัน กบก็จะเริ่มขึ้นมาอยู่บนบก กบจึงได้ขื่อว่าเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แต่ส่วนใหญ่แล้วกบจะใช้ชีวิตอยู่บนบกเสียมากกว่าอยู่ในน้ำ กบจะใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน กว่าจะโตเต็มไว ที่น้ำหนักตัวประมาณ 4-5 ตัว ต่อกิโลกรัม (กบนา) และจะพร้อมผสมพันธุ์ เมื่ออายุได้ประมาณ 8-12 เดือน
สำหรับบ่อเลี้ยงกบนา สามารถทำได้หลายแบบ ได้แก่ บ่อซีเมนต์ลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า 2.0×2.5×1.2 เมตร ถึง 3.0×4.0×1.0 เมตร ขอบบ่อสูง 1 เมตร พื้นที่บ่อมีลักษณะขัดเรียบมีทางระบายน้ำออกและควรมีหลังคาคลุมด้วยซาแรน เพื่อป้องกันแดดที่ร้อนจัดเกินไป และมีพลาสติกใสใช้ป้องกันฝนที่ตกลงในบริเวณบ่อในช่วงฤดูฝน และพลาสติกใสนี้ยังสามารถใช้คลุมบ่อเลี้ยงในช่วงฤดูหนาว ในขณะที่พ่อแม่พันธุ์พักตัวได้เช่นเดียวกัน นอกจากนิยมเลี้ยงกบนาในบ่อซีเมนต์แล้วยังสามารถเลี้ยงกบนาได้ในบ่อดินแบบชั่วคราวหรือเลี้ยงในกระชัง หรือถังซีเมนต์กลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 เมตร สูง 1 เมตร
กบนาสามารถขยายพันธุ์ได้ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนกันยายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการและความพร้อมของพ่อแม่พันธุ์ การขยายพันธุ์สามารถทำได้ทั้งโดยวิธีธรรมชาติและการใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ฉีดกระตุ้น “การผสมโดยวิธีธรรมชาติ” พ่อแม่พันธุ์ควรมีอายุครบ 1 ปี ให้สังเกตความพร้อมจากลักษณะที่กล่าวไว้ในข้างต้น
แบ่งออกเป็นอาหารสำเร็จรูปและอาหารจากธรรมชาติ อาหารสำเร็จรูป ได้แก่ อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาดุก เริ่มต้นจากอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาดุกวัยอ่อนชนิดเม็ดเล็กพิเศษ อาหารเลี้ยงปลาดุกรุ่นสำหรับกบเล็กไปจนถึงอาหารเลี้ยงปลาดุกใหญ่ สำหรับกบเนื้อและพ่อแม่พันธุ์ ส่วนอาหารจากธรรมชาติสามารถใช้เป็นอาหารเสริมโปรตีนจะลดต้นทุนในการผลิตแต่การเลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติจำเป็นจะต้องฝึกให้ลูกกบกินอาหารสำเร็จรูปก่อน มิฉะนั้นกบจะไม่กินอาหารสำเร็จรูป
ในการป้องกันรักษา ทำความสะอาดบ่อฆ่าเชื้อโรคและพักบ่อโดยการตากแดดเป็นครั้งคราว ใช้ปูนขาว ฟอร์มาลีน 10% หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดพื้นบ่อ และใช้ด่างทับทิมผสมในน้ำที่ใช้เลี้ยงกบเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่มากับน้ำในบ่อเลี้ยงลูกอ๊อดและกบระยะต่างๆ ปรับสภาพน้ำโดยการใช้คลอรีนผงชนิดเจือจางในน้ำที่ใช้เลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ หรือใช้ยาปฏิชีวนะ ยาซัลฟารักษาโรคติดเชื้อเป็นครั้งคราว และวิตามินเสริมฟร็อก 100 หรือ ฟร็อก 200 เป็นต้น
ส่วนในการขยายพันธุ์กบ คุณสุจินต์ แนะนำว่าควรใช้กบนาที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป มาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ (สิ่งที่สำคัญควรเปลี่ยนพ่อแม่พันธุ์ทุกปีจะดีที่สุด) โดยคัดเลือกแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์ และมีความพร้อมในการผสมพันธุ์ จะช่วยให้กบมีไข่และน้ำเชื้อที่แข็งแรง ส่วนบ่อเพาะพันธุ์จะใช้บ่อซีเมนต์หรือบ่อดินก็ได้
เมื่อถึงฤดูผสมพันธ์ุและควรคัดเลือกกบมีความพร้อม โดยในช่วงเย็นปล่อยให้พ่อแม่พันธุ์ลงเลี้ยง จำนวนพ่อแม่พันธุ์แล้วแต่ความเหมาะสม (ขึ้นอยู่กับขนาดบ่อ) พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศในการผสมพันธุ์ คือนำผักตบชวาหรือผักบุ้ง ใส่ลงในบ่อ ใช้สปริงเกลอร์หรือสายยางทำเหมือนฝนตก ตกเย็นกบจะเริ่มจับคู่กันเองและวางไข่ในตอนเช้ามืด แล้วจึงนำพ่อแม่พันธุ์ออกจากบ่อในตอนเช้ามืด ไข่จะฟักเป็นลูกอ๊อดภายใน 24 ชั่วโมง 2-3 วันแรกไม่ต้องให้อาหาร ให้ไข่แดงเป็นอาหาร
หลังจากนั้นจึงเริ่มให้อาหารสำเร็จรูป (อาหารลูกอ๊อด) ประมาณ 30-40 วัน จึงเริ่มจำหน่ายเป็นพันธุ์กบ (ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกกบกินอาหารเก่งขึ้น) ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการเพาะพันธุ์กบนาเพื่อจำหน่ายลูกกบ ซึ่งมีต้นทุนน้อย แต่ได้ราคาดี
เทคนิคการเลี้ยงกบนาให้แข็งแรง ที่แตกต่างจากการเลี้ยงกบเกษตรกรรายอื่นคือ คุณสุจินต์จะเลี้ยงใต้ถุนบ้าน และเลี้ยงในนาข้าว ก่อนการทำนา หากเพาะพันธุ์กบในนาข้าว จะสามารถลดต้นทุนในการใช้ปุ๋ยในนาข้าว เนื่องจากมูลกบที่เหลือจากการเพาะพันธุ์กบจะเป็นปุ๋ยให้กับต้นข้าว
คุณสุจินต์ ทำการเกษตร ภายใต้แนวคิดที่ว่า ใช้แรงงานน้อย แต่ได้ผลตอบแทนสูง นับว่าคุณสุจินต์ เป็นเกษตรตัวอย่างอย่างแท้จริง มีประสบการณ์สิบกว่าปีในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตร และเยาวชนมาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง
ทำเลบ่อกบต้องอยู่ที่โล่งแจ้ง และ ตองหมั่นคัดสายพันธุ์กบอยู่เสมอ ที่สำคัญในการเลี้ยงกบ ต้องมีใจรักและเข้าใจในพฤติกรรมของกบ รวมทั้งหมั่นดูแลเอาใจใส่เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ และในการประกอบอาหาร เมนูที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะภาคเหนือ ได้แก่ แกงแคกบ กบทอด ยำกบ กบทอดกระเทียม ผัดเผ็ดกบ กบยัดไส้ทรงเครื่อง เป็นต้น ล้วนเป็นอาหารเลิศรสของคนภาคเหนือที่นิยมรับประทานในครอบครัวหรือเวลามีเทศกาลหรืองานเลี้ยง ประเพณีต่างๆ ของชาวล้านนา
จึงนับว่า กบนา เป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับชาวล้านนามาตั้งแต่สมัยโบราณกาล มีคุณประโยชน์ในเชิงนิเวศวิทยา, ประเพณีวัฒนธรรม วิถีชีวิตในการทำนา และคุณสุจินต์ยินดีจะสืบสานอนุรักษ์สัตว์ที่อยู่คู่กับชาวล้านนาต่อไป สามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุจินต์ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง 101/2 หมู่ที่ 6 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 50220 เบอร์โทรศัพท์ 081-724-7876 เบอร์ line 088-260-6325
แหล่งที่มา : https://www.technologychaoban.com
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ